Beblia

	พระคัมภีร์ในประเทศไทย (ERV) 2001 กิจการของอัครทูต ๑


บันทึกหมายเหตุ

๑ [1]

ท่านเธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรกที่ผมเขียนให้นั้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเยซูทำและสั่งสอนตั้งแต่เริ่มต้น

๒ [2]

จนถึงวันที่พระองค์ถูกรับขึ้นสวรรค์ แต่ก่อนที่พระองค์จะถูกรับขึ้นสวรรค์นั้น พระองค์สั่งพวกศิษย์เอกที่พระองค์ได้เลือกไว้ พระองค์ได้สั่งพวกเขาผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง

๓ [3]

หลังจากที่พระเยซูตายแล้ว ในช่วงเวลาสี่สิบวันพระองค์มาปรากฏตัวให้พวกเขาเห็นหลายครั้งหลายหน พระองค์ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อพิสูจน์ให้พวกนี้เห็นว่า พระองค์ฟื้นขึ้นจากความตายแล้วจริงๆและพูดกับพวกเขาถึงเรื่องอาณาจักรของพระเจ้า

๔ [4]

เมื่อพระองค์กำลังกินอาหารกับพวกศิษย์เอก พระองค์สั่งพวกเขาว่า “ห้ามไปไหน ให้คอยอยู่ที่เมืองเยรูซาเล็มก่อน จนกว่าจะได้รับสิ่งที่พระบิดาสัญญาไว้ ตามที่เราเคยบอกพวกคุณแล้ว

๕ [5]

ยอห์นทำพิธีจุ่มให้คนด้วยน้ำ แต่อีกไม่กี่วันพวกคุณก็จะได้รับการจุ่มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”

๖ [6]

เมื่อพระเยซูกับพวกศิษย์เอกมาอยู่กันพร้อมหน้า พวกศิษย์เอกถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ตอนนี้พระองค์กำลังจะคืนแผ่นดินให้กับอิสราเอลแล้วใช่ไหมครับ”

๗ [7]

พระองค์ตอบว่า “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ พระบิดาเองได้ตัดสินวันเวลานั้นไว้ก่อนแล้ว

๘ [8]

เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่กับพวกคุณ พวกคุณก็จะได้รับฤทธิ์เดช และจะเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้คนฟัง ทั่วเมืองเยรูซาเล็ม ในแคว้นยูเดีย ในแคว้นสะมาเรีย และทุกหนแห่งในโลกนี้”

๙ [9]

เมื่อพระเยซูพูดเสร็จ พระเจ้าก็ได้รับพระองค์ขึ้นไปสวรรค์ต่อหน้าต่อตาพวกเขา แล้วก้อนเมฆก็บังพระองค์จากสายตาของพวกเขา

๑๐ [10]

ในขณะที่พวกเขากำลังเพ่งดูพระองค์จากไปในท้องฟ้านั้น จู่ๆก็มีชายชุดขาวสองคนมายืนอยู่ข้างๆพวกเขา

๑๑ [11]

แล้วพูดว่า “ชาวกาลิลี พวกคุณยังยืนเพ่งดูท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเจ้ารับพระเยซูขึ้นไปบนสวรรค์แล้ว และพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งเหมือนอย่างที่คุณเห็นพระองค์ถูกรับขึ้นไปนี่แหละ”

๑๒ [12]

จากนั้นพวกเขาก็ลงจากภูเขามะกอกเทศ กลับไปที่เมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร

๑๓ [13]

เมื่อมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม พวกศิษย์ซึ่งมีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรชายของอัลเฟอัส ซีโมนผู้มีใจจดจ่อกับพระเจ้า กับยูดาสลูกชายยากอบ ก็ได้ขึ้นไปห้องชั้นบนที่พวกเขาเคยอยู่

๑๔ [14]

พวกเขาทั้งสิบเอ็ดคน รวมทั้งผู้หญิงบางคนและมารีย์แม่ของพระเยซู ตลอดจนน้องๆของพระองค์ ก็มาพบกันเพื่ออธิษฐานอยู่เสมอ

๑๕ [15]

มีอยู่วันหนึ่ง เปโตรยืนขึ้นในกลุ่มศิษย์ที่มาพบกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบคน แล้วเขาพูดว่า

๑๖ [16]

“พี่น้องทั้งหลาย ข้อความในพระคัมภีร์จะต้องเป็นจริงตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้พูดผ่านทางปากของกษัตริย์ดาวิด เมื่อนานมาแล้วเกี่ยวกับยูดาสที่นำคนพวกนั้นไปจับพระเยซู

๑๗ [17]

ยูดาสเป็นคนหนึ่งในกลุ่มของพวกเราและมีส่วนร่วมในการงานนี้ด้วย”

๑๘ [18]

(ยูดาส เอาเงินที่ได้จากการทำชั่วครั้งนี้ไปซื้อที่ดินไว้ แต่เขาหกล้มหัวฟาดพื้น พุงแตกไส้ทะลักตายบนที่ดินนั้น

๑๙ [19]

เรื่องนี้รู้กันทั่วเมืองเยรูซาเล็ม พวกเขาจึงเรียกที่ดินตรงนั้นตามภาษาท้องถิ่นว่า อาเคลดามา ซึ่งหมายถึง “ที่ดินเลือด”)

๒๐ [20]

เปโตรพูดต่อว่า “เรื่องนี้มีเขียนไว้แล้วในหนังสือสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขารกร้างว่างเปล่า อย่ามีใครเข้าไปอยู่เลย’ ‘ให้มีคนอื่นมารับตำแหน่งผู้นำแทนเขาด้วย’

๒๑ [21]

ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องเลือกชายคนหนึ่งขึ้นมาแทนยูดาส และเขาจะต้องเป็นคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาในช่วงที่พวกเราติดสอยห้อยตามพระเยซูด้วย

๒๒ [22]

เริ่มตั้งแต่ยอห์นทำพิธีจุ่มน้ำ จนถึงวันที่พระเจ้ารับพระเยซูขึ้นไปสวรรค์ คนคนนี้จะต้องเป็นพยานร่วมกับพวกเราที่จะบอกให้คนอื่นๆรู้ว่า พระเยซูฟื้นจากความตายแล้ว”

๒๓ [23]

พวกเขาจึงได้เสนอชื่อชายสองคนคือ โยเซฟ บารซับบาส (หรือที่รู้จักกันว่ายุสทัส) และอีกคนคือมัทธีอัส

๒๔ [24]

แล้วพวกเขาก็อธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์รู้จักจิตใจของมนุษย์ทุกคนดี ช่วยแสดงให้พวกเราเห็นว่า ในสองคนนี้พระองค์ได้เลือกใคร

๒๕ [25]

ให้มาทำหน้าที่รับใช้เป็นศิษย์เอกแทนยูดาสคนที่ละทิ้งหน้าที่ และได้ไปอยู่ในที่ที่เขาสมควรไปอยู่แล้ว”

๒๖ [26]

แล้วพวกเขาก็จับสลากกัน และได้ชื่อมัทธีอัส เขาจึงถูกนับรวมเข้ากับศิษย์เอกทั้งสิบเอ็ดคนนั้นด้วย