๑ ทิโมธี ๕ - พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ [พระคัมภีร์ในประเทศไทย (TNCV) 2007]

	พระคัมภีร์ในประเทศไทย (TNCV) 2007 ๑ ทิโมธี ๕


บันทึกหมายเหตุ

๑ [1]

อย่าตำหนิผู้อาวุโสอย่างรุนแรง แต่จงขอร้องเขาเสมือนว่าเป็นบิดาของท่าน จงปฏิบัติต่อชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าเสมือนเป็นน้องชาย

๒ [2]

ต่อหญิงที่สูงวัยเสมือนเป็นมารดา และต่อหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าเสมือนเป็นน้องสาวด้วยความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

๓ [3]

จงนับถือเอาใจใส่หญิงม่ายผู้ขัดสนตามสมควร

๔ [4]

แต่ถ้าหญิงม่ายคนใดมีลูกหลาน ก่อนอื่นใดให้ลูกหลานเหล่านั้นพึงปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา โดยการเอาใจใส่ดูแลครอบครัวของตนเองอันเป็นการตอบแทนคุณบิดามารดาปู่ย่าตายาย เพราะการทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

๕ [5]

หญิงม่ายผู้ขัดสนจริงๆ และอยู่ลำพังคนเดียวนั้นก็ตั้งความหวังไว้ในพระเจ้า นางพร่ำอธิษฐานและทูลขอพระเจ้าทั้งวันทั้งคืนให้ทรงช่วยเหลือ

๖ [6]

แต่หญิงม่ายที่อยู่เพื่อหาความสนุกเพลิดเพลินก็ตายทั้งเป็น

๗ [7]

จงสั่งสอนสิ่งเหล่านี้ด้วยเพื่อจะไม่มีใครถูกตำหนิได้

๘ [8]

ถ้าผู้ใดไม่จุนเจือญาติพี่น้องของตนโดยเฉพาะคนในครอบครัวของตนเอง ผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธความเชื่อแล้วและเลวยิ่งกว่าผู้ไม่เชื่อ

๙ [9]

อย่าบันทึกชื่อหญิงม่ายคนใดในทะเบียนรับการอุปถัมภ์ เว้นแต่นางจะมีอายุเกินหกสิบปีและสัตย์ซื่อต่อสามีของนาง

๑๐ [10]

และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการทำความดีเช่น เลี้ยงดูลูกๆ มีน้ำใจรับรองแขก ล้างเท้าให้ประชากรของพระเจ้า ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและอุทิศตนในการทำดีทุกอย่าง

๑๑ [11]

ส่วนหญิงม่ายสาวๆ นั้น อย่ารับขึ้นทะเบียน เพราะเมื่อความปรารถนาทางร่างกายมีชัยเหนือการอุทิศตัวแด่พระคริสต์ พวกนางก็อยากแต่งงานอีก

๑๒ [12]

อันเป็นเหตุให้นางถูกพิพากษาเพราะละเมิดคำปฏิญาณที่ให้ไว้แต่แรก

๑๓ [13]

นอกจากนี้พวกนางจะกลายเป็นคนเกียจคร้านเที่ยวไปบ้านนั้นบ้านนี้ และไม่เพียงเกียจคร้านเท่านั้นแต่ยังชอบซุบซิบนินทาและยุ่งเรื่องชาวบ้าน พูดสิ่งที่ไม่ควรพูด

๑๔ [14]

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอแนะนำหญิงม่ายสาวๆ ให้แต่งงาน ให้มีลูกหลาน ให้ดูแลบ้านช่องเพื่อปิดโอกาสไม่ให้ศัตรูว่าร้ายได้

๑๕ [15]

อันที่จริงบางคนได้เตลิดตามซาตานไปแล้ว

๑๖ [16]

ถ้าหญิงผู้เชื่อคนใดมีคนในครอบครัวเป็นม่ายก็จงช่วยเหลือจุนเจือ อย่าปล่อยให้เป็นภาระของคริสตจักร คริสตจักรจะได้ช่วยเหลือหญิงม่ายอื่นๆ ซึ่งขัดสนจริงๆ

๑๗ [17]

คณะผู้ปกครองที่บริหารกิจการของคริสตจักรได้ดีควรได้รับเกียรติเป็นสองเท่า โดยเฉพาะบรรดาผู้ทำหน้าที่เทศนาและสั่งสอน

๑๘ [18]

เพราะพระคัมภีร์กล่าวว่า “อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัวซึ่งนวดข้าวอยู่” และ “คนงานสมควรได้รับค่าจ้างของตน”

๑๙ [19]

อย่ารับพิจารณาคำกล่าวหาผู้ปกครองคนใดเว้นแต่จะมีพยานสองสามคน

๒๐ [20]

จงว่ากล่าวตักเตือนผู้ที่ทำบาปต่อหน้าคนทั้งหลายเพื่อคนอื่นๆ จะได้ไม่กล้าเอาอย่าง

๒๑ [21]

ข้าพเจ้าขอกำชับท่านในสายพระเนตรพระเจ้าและพระเยซูคริสต์และต่อหน้าเหล่าทูตสวรรค์ที่ทรงเลือก ให้ยึดถือข้อปฏิบัติเหล่านี้โดยไม่ลำเอียงและอย่าทำสิ่งใดโดยเลือกที่รักมักที่ชัง

๒๒ [22]

อย่าผลีผลามวางมือให้ใครและอย่ามีส่วนร่วมในบาปของผู้อื่น จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์

๒๓ [23]

ตั้งแต่นี้ไปอย่าดื่มแต่น้ำ จงเจือเหล้าองุ่นเล็กน้อย เนื่องด้วยกระเพาะอาหารของท่านและความเจ็บป่วยที่ท่านเป็นอยู่บ่อยๆ

๒๔ [24]

บาปของบางคนก็ชัดแจ้งนำหน้าเขาไปสู่สถานพิพากษา ส่วนบาปของบางคนตามเขามาในภายหลัง

๒๕ [25]

ในทำนองเดียวกันการทำดีย่อมปรากฏชัด แม้ที่ไม่ปรากฏชัดก็ไม่อาจซ่อนได้