พระคัมภีร์ในหนึ่งปี กุมภาพันธ์ ๑๘เลวีนิติ ๗:๑-๓๘๑. “ต่อไปนี้เป็นกฎเรื่องเครื่องบูชาชดใช้บาป เป็นของถวายที่บริสุทธิ์ที่สุด๒. ให้พวกเขาฆ่าสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาชดใช้บาปในที่สำหรับฆ่าสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และให้นำเลือดสัตว์นั้นประพรมที่แท่นและทุกด้านของแท่น๓. และให้เอาไขมันของสัตว์นั้นถวายบูชาเสียทั้งหมดด้วย คือหางอ้วนใหญ่ ไขมันที่หุ้มเครื่องใน๔. ไตสองไตพร้อมกับไขมันที่ติดอยู่กับไตซึ่งอยู่ตรงบั้นเอว และให้เขาตัดไขที่อยู่เหนือตับนั้นออกพร้อมกับไต๕. ให้ปุโรหิตเผาสิ่งเหล่านี้บนแท่นเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาชดใช้บาป๖. ให้ผู้ชายทุกคนที่เป็นปุโรหิตรับประทาน ให้รับประทานในวิสุทธิสถานเป็นของถวายที่บริสุทธิ์ที่สุด๗. เครื่องบูชาชดใช้บาปก็เหมือนเครื่องบูชาลบล้างบาป มีกฎอย่างเดียวกัน ปุโรหิตผู้ทำพิธีถวายเครื่องบูชาลบมลทินจะได้เครื่องบูชานั้น๘. ปุโรหิตถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวของผู้ใด ปุโรหิตผู้นั้นย่อมได้หนังของเครื่องบูชาเผาทั้งตัวที่ตนถวาย๙. เครื่องธัญบูชาทุกอย่างที่ปิ้งในเตาอบ และทั้งหมดซึ่งเตรียมในกระทะหรือที่เหล็กให้ตกเป็นของปุโรหิตผู้ถวายของเหล่านั้น๑๐. ธัญบูชาทุกอย่างที่เคล้าน้ำมันหรือไม่เคล้าจะตกเป็นของบรรดาบุตรอาโรนเท่าเทียมกัน๑๑. “ต่อไปนี้เป็นกฎเรื่องเครื่องศานติบูชาซึ่งคนนำมาถวายแด่พระยาห์เวห์๑๒. ถ้าเขาถวายเพื่อขอบพระคุณ พร้อมกับเครื่องบูชาขอบพระคุณนี้ ให้เขาถวายขนมไร้เชื้อเคล้าน้ำมัน ขนมแผ่นไร้เชื้อทาน้ำมัน ขนมที่ทำจากแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันให้ดี๑๓. พร้อมกันนี้ให้เขานำขนมปังใส่เชื้อ มาถวายเป็นส่วนของเครื่องบูชา พร้อมกับสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องศานติบูชาที่ถวายเพื่อขอบพระคุณ๑๔. ให้เขาถวายเครื่องบูชาเหล่านี้อย่างละก้อนเป็นเครื่องถวายแด่พระยาห์เวห์ ซึ่งจะเป็นส่วนของปุโรหิตผู้เอาเลือดศานติบูชาประพรม๑๕. ส่วนเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องศานติบูชาเพื่อขอบพระคุณนั้น เขาจะต้องรับประทานเสียในวันถวายบูชา ไม่ให้เหลือไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น๑๖. ถ้าเครื่องบูชานั้นเป็นเครื่องบูชาแก้บน หรือเป็นเครื่องบูชาตามใจสมัคร ให้เขารับประทานในวันถวายบูชา และในวันรุ่งขึ้นเขายังรับประทานส่วนที่เหลือได้๑๗. ส่วนเนื้อของเครื่องบูชาที่เหลือถึงวันที่สาม ให้เผาเสียด้วยไฟ๑๘. ถ้าผู้ใดรับประทานเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องศานติบูชาในวันที่สาม ผู้ถวายนั้นจะไม่เป็นที่โปรดปราน และไม่ทรงถือว่า เครื่องบูชานั้นเป็นที่พอพระทัย เป็นการกระทำที่พึงรังเกียจ และผู้ที่รับประทานจะต้องได้รับโทษ๑๙. “เนื้อที่ไปถูกของที่เป็นมลทินใดๆ ห้ามรับประทาน จงเผาเสียด้วยไฟ เนื้อส่วนอื่นนั้นบุคคลที่สะอาดทุกคนรับประทานได้๒๐. ถ้าผู้ใดรับประทานเนื้อสัตวบูชาซึ่งเป็นศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ โดยที่ตนยังมีมลทินติดตัวอยู่ ผู้นั้นจะต้องถูกขับออกจากชนชาติของตน๒๑. ถ้าผู้ใดแตะต้องสิ่งที่เป็นมลทินไม่ว่าจะเป็นมลทินของคน หรือเป็นสัตว์ที่เป็นมลทิน หรือเป็นสิ่งพึงรังเกียจอันใดที่เป็นมลทิน และผู้นั้นมารับประทานเนื้อของศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ ผู้นั้นจะต้องถูกขับออกจากชนชาติของตน”๒๒. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า๒๓. “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ห้ามเจ้าทั้งหลายรับประทานไขมันของโค ของแกะ หรือของแพะ๒๔. ไขมันของสัตว์ที่ตายเอง และไขมันของสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นกัดตาย จะนำไปใช้อย่างอื่นก็ได้ แต่ห้ามรับประทานเป็นอันขาด๒๕. ทุกคนที่รับประทานไขมันของสัตว์ซึ่งเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ จะถูกขับออกจากชนชาติของตน๒๖. ยิ่งกว่านั้นอีกห้ามเจ้ารับประทานเลือดในที่ใดๆ ที่เจ้าอาศัยอยู่ ไม่ว่าเลือดนกหรือเลือดสัตว์๒๗. ผู้ใดรับประทานเลือด ผู้นั้นจะถูกขับออกจากชนชาติของตน”๒๘. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า๒๙. “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ผู้ใดจะถวายสัตวบูชาซึ่งเป็นศานติบูชาแด่พระยาห์เวห์ ให้ผู้นั้นนำเครื่องบูชาของเขามาถวายแด่พระยาห์เวห์ จากสัตวบูชาซึ่งเป็นศานติบูชาของเขา๓๐. ให้เขานำเครื่องถวายบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์มาด้วยตนเอง ให้เขานำไขมันมาพร้อมกับเนื้ออกนั้น เพื่อเอาเนื้ออกนั้นโบกถวายเป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์๓๑. ให้ปุโรหิตเผาไขมันเสียบนแท่นบูชา แต่เนื้ออกนั้นตกเป็นของอาโรนและบรรดาบุตรของเขา๓๒. แต่ขาขวาของสัตว์นั้น เจ้าจงให้ปุโรหิตเป็นเครื่องถวายจากเครื่องบูชาแห่งศานติบูชา๓๓. บุตรของอาโรนผู้ทำพิธีถวายเลือดแห่งศานติบูชาและไขมันจะได้รับขาขวาเป็นส่วนของเขา๓๔. เพราะว่าเนื้ออกที่โบกถวาย และเนื้อขาที่ถวายนั้น เราได้เอาจากคนอิสราเอลจากเครื่องศานติบูชาของเขา และเราได้มอบให้แก่อาโรนปุโรหิต และบรรดาบุตรของเขา เป็นส่วนได้อันถาวรจากคนอิสราเอล๓๕. นี่เป็นส่วนของอาโรนและบรรดาบุตรของเขาที่ได้จากเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ ซึ่งมอบหมายให้แก่เขาทั้งหลายในวันที่พวกเขาถูกถวายไว้เป็นปุโรหิตปรนนิบัติพระยาห์เวห์๓๖. พระยาห์เวห์ทรงบัญชาคนอิสราเอลให้มอบสิ่งเหล่านี้แก่เขาทั้งหลาย ในวันที่พวกเขาได้รับการเจิมเป็นปุโรหิต เป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขาทั้งหลาย”๓๗. ทั้งหมดนี้ เป็นกฎเรื่องเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เครื่องธัญบูชา เครื่องบูชาลบล้างบาป เครื่องบูชาชดใช้บาป เครื่องบูชาเพื่อการสถาปนา และเครื่องศานติบูชา๓๘. ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสสบนภูเขาซีนาย ในวันที่พระองค์ทรงบัญชาคนอิสราเอลให้นำเครื่องบูชามาถวายแด่พระยาห์เวห์ ในถิ่นทุรกันดารซีนายเลวีนิติ ๘:๑-๓๖๑. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า๒. “จงนำอาโรนและบรรดาบุตรของเขามาพร้อมกับเสื้อตำแหน่ง น้ำมันเจิม โคซึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป แกะผู้สองตัว และขนมปังไร้เชื้อตะกร้าหนึ่ง๓. แล้วจงเรียกชุมนุมชนทั้งหมดให้ประชุมกันที่ประตูเต็นท์นัดพบ”๔. โมเสสก็ทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่ท่าน ชุมนุมชนก็ถูกเรียกให้ประชุมกันที่ประตูเต็นท์นัดพบ๕. โมเสสกล่าวแก่ชุมนุมชนว่า “ต่อไปนี้เป็นสิ่งซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ทำ”๖. โมเสสก็นำอาโรนและบุตรทั้งหลายของเขามาชำระกายด้วยน้ำ๗. แล้วสวมเสื้อให้ คาดผ้าคาดเอวให้ สวมเสื้อคลุมให้ และสวมเอโฟด ให้เขา เอาผ้าคาดเอวของเอโฟดที่ทออย่างวิจิตรคาดเอวให้ ผูกเอโฟดให้ติดเขาไว้๘. แล้วโมเสสสวมทับทรวงให้อาโรนและใส่อูริมกับทูมมิม ไว้ในทับทรวงนั้น๙. โพกผ้ามาลาบนศีรษะและคาดแผ่นทองคำเป็นมงกุฎบริสุทธิ์ที่ผ้ามาลาด้านหน้า ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสสไว้นั้น๑๐. โมเสสนำน้ำมันเจิมมาเจิมพลับพลาและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ชำระให้บริสุทธิ์๑๑. ท่านเอาน้ำมันเจิมประพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เจิมแท่นและเจิมภาชนะประจำแท่นทั้งหมด เจิมขันและพานรองขันเพื่อชำระให้บริสุทธิ์๑๒. ท่านเทน้ำมันเจิมบางส่วนลงบนศีรษะของอาโรน แล้วเจิมเขาไว้เพื่อชำระให้บริสุทธิ์๑๓. และโมเสสนำบรรดาบุตรของอาโรนเข้ามา สวมเสื้อแล้วคาดผ้าคาดเอวให้ และสวมผ้าโพกศีรษะให้ ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสสไว้๑๔. แล้วท่านนำโคที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปเข้ามา อาโรนและบุตรทั้งหลายของเขาก็เอามือของตนวางบนหัวของโค ที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปนั้น๑๕. โมเสสก็ฆ่าโคตัวนั้นเสีย เอานิ้วจุ่มเลือดไปเจิมเชิงงอนทุกด้านของแท่น ชำระแท่นให้บริสุทธิ์ แล้วเทเลือดที่ฐานของแท่น ถวายแท่นไว้เป็นของถวายบริสุทธิ์ เพื่อลบมลทินของแท่นนั้น๑๖. ท่านนำไขมันที่อยู่กับเครื่องในและไขของตับ ไตสองไต พร้อมกับไขมันมา แล้วโมเสสก็เผาสิ่งเหล่านี้เสียบนแท่น๑๗. แต่โค หนังของโค กับเนื้อและมูลของมัน ท่านเผาเสียด้วยไฟภายนอกค่าย ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสสไว้๑๘. ท่านนำแกะตัวผู้ซึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวเข้ามา อาโรนกับบุตรทั้งหลายของเขาเอามือของตนวางบนหัวของแกะตัวผู้นั้น๑๙. โมเสสฆ่าแกะนั้น เอาเลือดประพรมที่แท่นบูชาและทุกด้านของแท่น๒๐. เมื่อสับแกะเป็นท่อนๆ แล้ว โมเสสก็เผาพร้อมกับหัวและไขมัน๒๑. เมื่อเอาน้ำล้างเครื่องในและขาแกะแล้ว โมเสสเผาแกะทั้งตัวบนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เป็นกลิ่นที่พอพระทัย เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ ดังที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสส๒๒. ท่านนำแกะผู้อีกตัวหนึ่งเข้ามา คือแกะตัวที่เป็นเครื่องสถาปนา อาโรนและบุตรทั้งหลายของเขาเอามือของตนวางบนหัวแกะตัวผู้นั้น๒๓. โมเสสฆ่าแกะนั้น เอาเลือดเจิมปลายหูข้างขวา นิ้วหัวแม่มือขวา และที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของอาโรน๒๔. แล้วนำบุตรทั้งหลายของอาโรนเข้ามา โมเสสเอาเลือดเจิมปลายหูข้างขวา นิ้วหัวแม่มือข้างขวา นิ้วหัวแม่เท้าข้างขวาของพวกเขา โมเสสเอาเลือดประพรมแท่นบูชาและทุกด้านของแท่น๒๕. แล้วท่านจึงนำไขมัน และหางอ้วนใหญ่ ไขมันทั้งหมดที่อยู่บนเครื่องใน และไขของตับ และไตสองไตกับไขมันที่ติดอยู่ และขาข้างขวา๒๖. และท่านหยิบขนมไร้เชื้อหนึ่งก้อนจากตะกร้าขนมไร้เชื้อ ซึ่งอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ หยิบขนมปังเคล้าน้ำมันก้อนหนึ่ง ขนมแผ่นแผ่นหนึ่ง วางของเหล่านี้ไว้บนไขมัน บนขาข้างขวา๒๗. ท่านนำสิ่งเหล่านี้วางในมือของอาโรน และมือของบุตรทั้งหลายของเขา โบกถวายเป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์๒๘. แล้วโมเสสก็นำของเหล่านั้นมาจากมือของเขาทั้งหลาย และเผาเสียบนแท่นบูชา พร้อมกับเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เป็นเครื่องบูชาเพื่อการสถาปนา เป็นกลิ่นที่พอพระทัย เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์๒๙. โมเสสเอาเนื้ออกโบกถวาย เป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ ส่วนนี้ของแกะเป็นส่วนของโมเสส เพื่อการสถาปนาตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาโมเสส๓๐. แล้วโมเสสนำน้ำมันเจิมและเลือดซึ่งอยู่บนแท่น ประพรมอาโรนและเสื้อตำแหน่งของเขา ประพรมบรรดาบุตรกับเสื้อตำแหน่งของพวกเขา โดยวิธีนี้แหละท่านก็ชำระอาโรนกับเสื้อตำแหน่งของเขา และบุตรทั้งหลายของเขากับเสื้อตำแหน่งของพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วย๓๑. โมเสสสั่งอาโรนและบุตรทั้งหลายของเขาว่า “จงต้มเนื้อที่ประตูเต็นท์นัดพบ และรับประทานเสียที่นั่นกับขนมปังซึ่งอยู่ในตะกร้าเครื่องบูชาเพื่อการสถาปนา ดังที่เรา บัญชาไว้ ให้อาโรนและบุตรทั้งหลายของเขารับประทาน๓๒. เนื้อและขนมปังที่เหลือนั้นท่านจงเผาด้วยไฟ๓๓. ห้ามท่านทั้งหลายออกไปนอกประตูเต็นท์นัดพบตลอดเจ็ดวัน จนกว่าวันกำหนดสถาปนาของท่านจะครบ เพราะที่จะสถาปนาท่านนั้น ก็กินเวลาเจ็ดวัน๓๔. สิ่งที่ได้ทำในวันนี้ พระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ทำเพื่อลบมลทินของท่าน๓๕. ท่านจงอยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดเจ็ดวัน ทำภารกิจที่พระยาห์เวห์ทรงกำชับไว้ เพื่อท่านจะไม่ต้องตาย เพราะนี่เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับพระบัญชามา”๓๖. อาโรนกับบุตรทั้งหลายของเขา ได้ทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาทางโมเสสทุกประการสดุดี ๒๔:๗-๑๐๗. ประตูเมืองเอ๋ย จงยกหัวของเจ้าขึ้น บานประตูนิรันดร์เอ๋ย จงยกขึ้นเถิด เพื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะได้เสด็จเข้ามา๘. กษัตริย์ผู้ทรงพระสิรินั้นคือผู้ใด? คือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเข้มแข็งและทรงอานุภาพ พระยาห์เวห์ผู้ทรงอานุภาพในสงคราม๙. ประตูเมืองเอ๋ย จงยกหัวของเจ้าขึ้น บานประตูนิรันดร์เอ๋ย จงยกขึ้นเถิด เพื่อกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริจะได้เสด็จเข้ามา๑๐. กษัตริย์ผู้ทรงพระสิรินั้นคือผู้ใด? คือพระยาห์เวห์จอมทัพ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริ เส-ลาห์สุภาษิต ๙:๑๐-๑๒๑๐. ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และการรู้จักองค์บริสุทธิ์เป็นความรอบรู้๑๑. เพราะโดยปัญญา วันคืนของเจ้าจะทวีขึ้น และปีเดือนแห่งชีวิตของเจ้าจะเพิ่มพูน๑๒. ถ้าเจ้ามีปัญญา เจ้าก็มีปัญญาเพื่อตนเอง ถ้าเจ้าเยาะเย้ย เจ้าก็จะทนแต่ลำพังมาระโก ๑:๑-๒๒๑. ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้า เริ่มต้นตรงนี้๒. ตามที่เขียนในพระธรรมอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า “นี่แน่ะ เราใช้ทูตของเรานำหน้าท่าน ผู้นั้นจะเตรียมมรรคา ของท่านไว้๓. เสียงคนร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมมรรคาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำหนทาง ของพระองค์ ให้ตรงไป”๔. ยอห์นผู้ให้บัพติศมา ปรากฏตัวขึ้นในถิ่นทุรกันดาร ท่านประกาศถึงบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ เพื่อรับการยกโทษความผิดบาป๕. คนทั้งแคว้นยูเดียกับคนทั้งกรุงเยรูซาเล็มพากันออกไปหายอห์น สารภาพความผิดบาปของพวกเขา และรับบัพติศมาจากท่านในแม่น้ำจอร์แดน๖. ยอห์นแต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ และใช้หนังสัตว์คาดเอว รับประทานตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า๗. ท่านประกาศว่า “ภายหลังข้าพเจ้าจะมีผู้หนึ่งเสด็จมา พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะน้อมตัวลงแก้สายฉลองพระบาทให้พระองค์๘. ข้าพเจ้าให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”๙. ในเวลานั้นพระเยซูเสด็จมาจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี และทรงรับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน๑๐. ทันทีที่พระองค์เสด็จขึ้นมาจากน้ำ ก็ทอดพระเนตรเห็นท้องฟ้าแหวกออก และพระวิญญาณดุจนกพิราบเสด็จลงมาประทับบน พระองค์๑๑. แล้วมีพระสุรเสียงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”๑๒. แล้วโดยทันที พระวิญญาณก็ทรงเร่งเร้าพระองค์ให้เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร๑๓. และประทับอยู่ที่นั่นถึงสี่สิบวัน ทรงถูกซาตาน ทดลอง และประทับอยู่กับสัตว์ป่า และมีพวกทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์๑๔. หลังจากยอห์นถูกจับแล้ว พระเยซูเสด็จมายังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า๑๕. โดยตรัสว่า “เวลากำหนดมาถึงแล้วและแผ่นดินของพระเจ้าก็มาใกล้แล้ว จงกลับใจใหม่ และเชื่อข่าวประเสริฐ”๑๖. ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามชายทะเลสาบกาลิลี ก็ทอดพระเนตรเห็นชาวประมงสองคน คือซีโมนและอันดรูว์น้องของซีโมน กำลังทอดแหอยู่ในทะเลสาบ๑๗. พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงตามเรามา เราจะตั้งพวกท่านให้เป็นผู้หาคนเหมือนหาปลา”๑๘. พวกเขาก็ละแหตามพระองค์ไปทันที๑๙. เมื่อพระองค์เสด็จต่อไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรเศเบดี กับยอห์นน้องชายของเขากำลังชุนอวนอยู่ในเรือ๒๐. พระองค์ทรงเรียกพวกเขาทันที พวกเขาจึงละเศเบดีผู้เป็นบิดาไว้ที่เรือกับพวกลูกจ้างแล้วตามพระองค์ไป๒๑. พระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และพอถึงวันสะบาโต พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาเทศนาสั่งสอน๒๒. คนทั้งหลายก็อัศจรรย์ใจด้วยคำสอนของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงสั่งสอนพวกเขาด้วยสิทธิอำนาจ ไม่เหมือนพวกธรรมาจารย์ Thai Bible (THS) 2011 เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฉบับมาตรฐาน