|
| ก็เหมือนกับที่เจ้าไม่รู้ว่าลมมันพัดไปมาได้ยังไง หรือ กระดูกของเด็กทารกมันก่อเกิดขึ้นมาได้ยังไงในท้องแม่ เจ้าก็จะไม่มีวันที่จะเข้าใจการงานของพระเจ้าผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาเหมือนกัน |
|
|
| พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ประทานสันติสุขแท้จริงให้กับใจที่พึ่งพิงในพระองค์นั้น เพราะพวกเขาไว้วางใจในพระองค์ |
|
|
| ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะทำให้เจ้ามีกำลัง ใช่แล้ว เราจะช่วยเจ้า เราจะพยุงเจ้าด้วยมือขวาแห่งชัยชนะของเรา |
|
|
| พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้หญิงที่ให้นมลูก จะลืมลูกของเธอได้หรือ หรือ ผู้หญิงที่คลอดลูกออกมาจะไม่ให้ความรักต่อลูกของเธอ ได้หรือ ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะลืมได้ แต่เราจะไม่มีวันลืมเจ้า |
|
|
| “เรารู้จักเจ้า ก่อนที่เราจะก่อร่างเจ้าขึ้นมาในครรภ์เสียอีก เราได้แยกเจ้าออกมาสำหรับเรา ก่อนที่เจ้าจะคลอดจากท้องแม่เสียอีก เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้พูดแทนพระเจ้า ให้กับชนชาติทั้งหลาย” |
|
|
| พระยาห์เวห์พูดว่า “เพราะเรารู้แผนงานต่างๆที่เราวางไว้ให้กับเจ้า เป็นแผนงานสำหรับความเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่สำหรับความหายนะ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังกับเจ้า |
|
|
| คนที่โศกเศร้า มีเกียรติจริงๆ เพราะพระเจ้าจะปลอบโยนเขา |
|
|
| พระยาห์เวห์อยู่ใกล้ และพร้อมที่จะช่วยคนที่หมดกำลังใจ และพระองค์ช่วยกู้คนที่สิ้นหวัง |
|
|
| เรารู้ว่าพระเจ้าทำให้ทุกอย่างเกิดผลดีสำหรับคนที่รักพระองค์ พวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าเรียกตามแผนงานของพระองค์ |
|
|
| [๒๗] ฉันได้อธิษฐานขอเด็กคนนี้ และพระยาห์เวห์ได้มอบสิ่งที่ฉันได้ขอจากพระองค์ [๒๘] ตอนนี้ฉันจะมอบเด็กนี้ให้กับพระยาห์เวห์ และเขาจะรับใช้พระยาห์เวห์ไปตลอดชีวิตของเขา” แล้วนางฮันนาห์ก็ทิ้งเด็กชายซามูเอลไว้ที่นั่น และนางก็ได้นมัสการพระยาห์เวห์ |
|
|
| [๖] เลิกกังวลได้แล้ว แต่ให้อธิษฐานในทุกๆสถานการณ์ และขอในสิ่งที่คุณต้องการจากพระเจ้า และเมื่ออธิษฐานก็ให้ขอบคุณพระเจ้าด้วย [๗] แล้วสันติสุขที่มาจากพระเจ้า ซึ่งดีกว่าสันติสุขที่มาจากแผนงานต่างๆของมนุษย์ จะปกป้องรักษาจิตใจ และความคิดของคุณไว้ในพระเยซูคริสต์ |
|
|
| [๘] พระยาห์เวห์พูดว่า “ความคิดต่างๆของเราไม่เหมือนกับความคิดต่างๆของเจ้า และทางทั้งหลายของเจ้าก็ไม่เหมือนกับทางทั้งหลายของเรา [๙] ท้องฟ้าอยู่สูงกว่าพื้นดินขนาดไหน ทางทั้งหลายของเราก็อยู่สูงกว่าทางทั้งหลายของเจ้าขนาดนั้น และความคิดต่างๆของเราก็อยู่สูงกว่าความคิดต่างๆของเจ้าขนาดนั้นด้วย |
|
|
| [๓] สรรเสริญพระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พระบิดาผู้เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา พระเจ้าผู้ที่ปลอบโยนเราในทุกเรื่อง [๔] เมื่อเรามีความทุกข์ พระองค์ปลอบโยนเรา เพื่อว่าเมื่อคนอื่นมีความทุกข์ เราจะได้ปลอบโยนเขาเหมือนกับที่พระเจ้าทำกับเรา [๕] ยิ่งเราร่วมทุกข์กับพระคริสต์มากเท่าไร พระเจ้าก็จะปลอบโยนเรามากขึ้นเท่านั้น โดยผ่านทางพระคริสต์ |
|
|
| [๑๓] พระองค์สร้างทั้งจิตและใจของข้าพเจ้า พระองค์ทอข้าพเจ้าเข้าด้วยกันในท้องแม่ [๑๔] ข้าพเจ้าจึงขอบคุณพระองค์เพราะงานของพระองค์นั้นช่างน่าเกรงขามและน่าทึ่ง พระองค์รู้จักข้าพเจ้าอย่างทะลุปรุโปร่ง [๑๕] ตอนที่ข้าพเจ้าถูกก่อขึ้นมาในที่ลึกลับในท้องแม่ ตอนนั้นที่ข้าพเจ้าประกอบเข้าด้วยกันในสถานที่ที่มองไม่เห็น ไม่มีกระดูกสักชิ้นหนึ่งของข้าพเจ้าที่รอดพ้นสายตาของพระองค์ไปได้ [๑๖] ดวงตาของพระองค์มองดูข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเป็นรูปเป็นร่าง ทุกวันคืนที่พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ พระองค์ได้จดบันทึกไว้แล้วในสมุดของพระองค์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นเสียอีก |
|