|
| แต่ถ้างานของใครถูกไฟเผาไหม้ไป คนๆนั้นก็จะได้รับความเสียหาย ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนคนที่วิ่งฝ่าเปลวไฟออกมา |
|
|
| ไม่มีใครยอมกินอะไรมาหลายวันแล้ว เปาโลจึงยืนขึ้นต่อหน้าพวกเขาพูดว่า “พวกคุณน่าจะฟังคำแนะนำของผมว่าอย่าแล่นเรือออกจากเกาะครีต จะได้ไม่ต้องมาพบกับความเสียหายและสูญเสียอย่างนี้ |
|
|
| [๗] แต่เพราะเห็นแก่พระคริสต์ สิ่งต่างๆเหล่านั้นที่ครั้งหนึ่งผมถือว่ามีค่ามาก ตอนนี้ผมถือว่าไร้ค่าแล้ว [๘] ความจริงแล้ว ผมถือว่าทุกอย่างนั้นไร้ค่า เพราะเห็นแก่สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้นมากนัก คือการที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของผม ผมยอมสูญสิ้นทุกอย่างเพื่อพระคริสต์ และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนขยะ เพื่อจะได้พระคริสต์ |
|
|
| [๑๓] ผลงานของแต่ละคนจะปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างจะถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นในวันที่พระเจ้ามาพิพากษาโลก วันนั้น จะมาพร้อมกับไฟ และไฟนี้จะทดสอบคุณภาพงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร [๑๔] ถ้างานของใครที่ก่อสร้างบนรากฐานนั้นยังคงทนอยู่ได้ คนๆนั้นก็จะได้รับรางวัล [๑๕] แต่ถ้างานของใครถูกไฟเผาไหม้ไป คนๆนั้นก็จะได้รับความเสียหาย ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนคนที่วิ่งฝ่าเปลวไฟออกมา |
|
|
| ทุกครั้งที่สัตว์ของลุงถูกสัตว์ป่ากัดกิน ผมก็ยอมชดใช้ค่าเสียหายเอง ไม่เคยเอาซากมาให้ลุงดู แล้วบอกว่าผมไม่ผิด ลุงให้ผมต้องรับผิดชอบอยู่ดี ไม่ว่ามันจะถูกขโมยไปจากผมตอนกลางวันหรือกลางคืน |
|
|
| ตอนนี้ ฟังไว้ให้ดี เจ้าที่รักความสนุกสนาน เจ้าที่นั่งอยู่ในความปลอดภัย เจ้าพูดในใจของตนว่า ‘ข้านี่แหละพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นนอกจากข้า ข้าจะไม่มีวันเป็นแม่หม้ายและข้าจะไม่มีวันสูญเสียลูกๆของข้าไป’ |
|
|
| พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดของเขา แล้วจะไม่มีความตาย ความเศร้าโศก การร้องไห้หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะสิ่งเก่าๆที่เคยเป็นมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว” |
|
|
| คนที่โศกเศร้า มีเกียรติจริงๆ เพราะพระเจ้าจะปลอบโยนเขา |
|
|
| พวกคุณจะรู้จักความจริงและความจริงจะทำให้พวกคุณเป็นอิสระ” |
|
|
| เพื่อว่าถ้าผมมาช้า คุณจะได้รู้ว่าสมาชิกในบ้านเรือนของพระเจ้านั้นจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง บ้านเรือนนี้คือหมู่ประชุมของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ และหมู่ประชุมนี้เป็นเสาหลักและรากฐานแห่งความจริง |
|
|
| “ว่าไง ความตาย ชัยชนะของเจ้าหายไปไหนหมดแล้ว ว่าไง ความตาย พิษสง ของเจ้าหายไปไหนหมดแล้ว” |
|
|
| เพราะคนเป็นมั่นใจได้แน่ว่าเขาจะต้องตายแน่ๆ แต่คนตายไม่รู้อะไรเลย และคนตายก็จะไม่ได้รับรางวัลอะไรอีกแล้ว เพราะผู้คนต่างก็พากันลืมพวกเขาไปหมด |
|
|
| คนที่กินเนื้อและดื่มเลือดของเราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป เราจะให้เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตในวันสุดท้าย |
|
|
| เขาเป็นแค่ช่างไม้ ลูกของมารีย์ พี่ชายของยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมน และพวกน้องสาวของเขาก็อยู่ในเมืองนี้กับพวกเราอีกด้วย” พวกเขาจึงขุ่นเคืองพระองค์ |
|
|
| [๑] “อย่ากลุ้มใจไปเลย ขอให้วางใจพระเจ้าและวางใจเราด้วย [๒] ในบ้านของพระบิดาของเรามีห้องหลายห้อง ถ้าหากไม่มีเราก็คงไม่บอกคุณหรอกว่า เรากำลังไปเตรียมที่ไว้ให้ [๓] พอเราเตรียมเสร็จแล้ว ก็จะกลับมารับคุณไปอยู่กับเรา |
|
|
| [๒๘] แล้วพวกเขาจะออกมาจากอุโมงค์ฝังศพ คนที่ทำดีก็จะฟื้นขึ้นมามีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป ส่วนคนที่ทำชั่วก็จะฟื้นขึ้นมาเพื่อรับการตัดสินลงโทษ” [๒๙] “เราทำอะไรเองไม่ได้ เราได้ยินจากพระเจ้ามาอย่างไร เราก็ตัดสินไปอย่างนั้น และคำตัดสินของเรานั้นก็ถูกต้อง เพราะเราไม่อยากตามใจตัวเอง แต่อยากตามใจพระเจ้าที่ส่งเรามา |
|
|
| เมื่อผงคลีกลับไปเป็นดินเหมือนที่มันเคยเป็น และเมื่อวิญญาณกลับไปหาพระเจ้าผู้ซึ่งให้มันมา |
|
|
| เพราะถ้าเรามีชีวิตอยู่ เราก็อยู่เพื่อองค์เจ้าชีวิต และถ้าเราตาย เราก็ตายเพื่อองค์เจ้าชีวิต ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่หรือตาย เราก็เป็นขององค์เจ้าชีวิต |
|
|
| เรารู้ว่าพระเจ้าทำให้ทุกอย่างเกิดผลดีสำหรับคนที่รักพระองค์ พวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าเรียกตามแผนงานของพระองค์ |
|
|
| [๑๓] เราอยากให้พี่น้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับคนที่ล่วงลับไปแล้ว คุณจะได้ไม่เศร้าโศกเสียใจเหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง [๑๔] ถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูตายไปแล้วและได้ฟื้นขึ้นมาอีก เราก็ต้องเชื่อว่า พระเจ้าจะนำผู้เชื่อเหล่านั้นที่ได้ตายไปแล้วกลับมาพร้อมกับพระเยซู โดยทางพระเยซู [๑๕] เรื่องที่พวกเราจะบอกคุณต่อไปนี้ องค์เจ้าชีวิตเป็นผู้พูดเอง คือว่าในวันนั้นตอนที่องค์เจ้าชีวิตมา พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่จะไม่ได้เปรียบคนพวกนั้นที่ตายไปแล้วหรอก [๑๖] เพราะเมื่อคนได้ยินคำสั่งอันดังกึกก้องของหัวหน้าทูตสวรรค์ และเสียงเป่าแตรของพระเจ้าดังขึ้น องค์เจ้าชีวิตเองก็จะลงมาจากสวรรค์ และบรรดาคนที่ได้ตายไปแล้วในพระคริสต์ จะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาก่อน [๑๗] หลังจากนั้นพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ก็จะถูกนำตัวขึ้นไปในเมฆพร้อมๆกับคนเหล่านั้น เพื่อไปพบกับองค์เจ้าชีวิตบนท้องฟ้า และพวกเราก็จะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป [๑๘] ขอให้พูดเรื่องนี้เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน |
|
|
| ผมไม่ได้เจอกับศิษย์เอกคนอื่นๆเลย นอกจากยากอบน้องชายขององค์เจ้าชีวิตเท่านั้น |
|
|
| พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “จริงๆแล้ว คนชาติอื่นยังให้เกียรติเรามากกว่าเจ้าเสียอีก จากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก มีผู้คนในทุกชนชาติที่ให้เกียรติเรา ผู้คนทุกหนแห่งต่างก็ถวายเครื่องหอม พร้อมๆกับของถวายอันบริสุทธิ์ให้กับเรา เพราะมีผู้คนในทุกชนชาติให้เกียรติเรา” |
|
|
| เพราะเมื่อคนได้ยินคำสั่งอันดังกึกก้องของหัวหน้าทูตสวรรค์ และเสียงเป่าแตรของพระเจ้าดังขึ้น องค์เจ้าชีวิตเองก็จะลงมาจากสวรรค์ และบรรดาคนที่ได้ตายไปแล้วในพระคริสต์ จะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาก่อน |
|
|
| พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ปั้นมนุษย์ผู้ชาย ขึ้นจากผงดินบนพื้น พระองค์ปล่อยลมหายใจเข้าไปในจมูกของชายคนนั้น เป็นลมหายใจแห่งชีวิต และชายคนนั้นก็มีชีวิตขึ้นมา |
|
|
| พระเยซูพูดอีกว่า “เราเป็นคนที่ทำให้คนทั้งหลายฟื้นขึ้นมาใหม่และให้ชีวิตกับเขา ทุกคนที่ไว้วางใจเราแม้จะตายไปแล้วก็จะกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่อีก |
|
|
| จิตวิญญาณของพวกเขาจะออกจากร่างและร่างกายของพวกเขาจะกลับสู่ดิน แล้วในวันนั้น แผนงานทั้งหลายของพวกเขาก็จะสูญสิ้นไป |
|
|
| คนตายแล้ว จะไม่สรรเสริญพระยาห์เวห์ คือทุกคนที่ล่วงลงสู่โลกแห่งความเงียบนั้น |
|
|
| เมื่อร่างที่เน่าเปื่อยนี้สวมสิ่งที่ไม่เน่าเปื่อยแล้ว และร่างที่ต้องตายนี้สวมสิ่งที่ไม่มีวันตายแล้ว สิ่งที่พระคัมภีร์เขียนไว้ก็จะเป็นความจริงที่ว่า “ความตายก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้ว” |
|
|
| เราถึงมีความมั่นใจและอยากที่จะจากบ้านนี้ ไปอยู่บ้านกับองค์เจ้าชีวิตมากกว่า |
|
|
| [๑๓] เราอยากให้พี่น้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับคนที่ล่วงลับไปแล้ว คุณจะได้ไม่เศร้าโศกเสียใจเหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง [๑๔] ถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูตายไปแล้วและได้ฟื้นขึ้นมาอีก เราก็ต้องเชื่อว่า พระเจ้าจะนำผู้เชื่อเหล่านั้นที่ได้ตายไปแล้วกลับมาพร้อมกับพระเยซู โดยทางพระเยซู |
|
|
| แม้ในยามที่ข้าพเจ้าเดินไปตามหุบเขาที่มืดมิดอย่างความตาย ข้าพเจ้าก็ไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งนั้น เพราะพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า ไม้กระบองและไม้เท้าเลี้ยงแกะของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัย |
|
|
| เพราะเราทุกคนจะต้องอยู่ต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ เพื่อแต่ละคนจะได้รับผลตอบแทนตามความดีหรือความชั่วที่ทำมาตอนที่ยังอยู่ในร่างกายนี้ |
|
|
| นายจึงพูดกับเขาว่า ‘เยี่ยมมาก เจ้าเป็นทาสที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าได้ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กๆน้อยๆเราจะตั้งให้เจ้าดูแลของจำนวนมาก มาร่วมฉลองกับเรา’ |
|
|
| เพราะค่าจ้างที่ความบาปจ่ายให้กับเราคือความตาย แต่ของขวัญที่พระเจ้าให้กับเรานั้นคือชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป ในพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา |
|
|
| มนุษย์ตายแค่ครั้งเดียวแล้วเจอกับการพิพากษา |
|
|
| [๓] พระเยซูบอกว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนที่ไม่ได้เกิดใหม่ ก็จะไม่เห็นอาณาจักรของพระเจ้า” [๔] นิโคเดมัสถามพระเยซูว่า “คนแก่แล้วจะเกิดใหม่ได้ยังไงครับ จะให้เข้าไปในท้องแม่เป็นครั้งที่สอง แล้วเกิดออกมาใหม่ได้หรือ” [๕] พระเยซูตอบว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า คนที่ไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้ |
|
|
| พยายามอยู่กับคนทั้งหลายอย่างสงบสุข และพยายามอุทิศตัวเองกับพระเจ้า เพราะถ้าปราศจากการอุทิศตัวกับพระองค์ก็จะไม่มีใครเห็นองค์เจ้าชีวิต |
|
|
| เพราะว่าพระเจ้ารักผูกพันกับมนุษย์ในโลกนี้มาก จนถึงขนาดยอมสละพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์ เพื่อว่าทุกคนที่ไว้วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่สูญสิ้น แต่จะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไป |
|
|
| [๑๑] หลังจากที่พระองค์พูดอย่างนั้นแล้วก็บอกพวกศิษย์ว่า “ลาซารัสเพื่อนของพวกเรากำลังหลับอยู่ แต่เราจะไปที่นั่นเพื่อปลุกเขาขึ้นมา” [๑๒] พวกศิษย์บอกว่า “อาจารย์ ถ้าเขาหลับอยู่ก็คงจะดีขึ้น” [๑๓] พระเยซูหมายความว่าลาซารัสตายแล้ว แต่พวกศิษย์คิดว่าพระองค์หมายถึงการนอนหลับตามปกติ |
|
|
| พี่น้องทั้งหลาย ผมมั่นใจว่าดาวิดผู้เป็นบรรพบุรุษของเรา ไม่ได้พูดถึงตัวเองเพราะเขาได้ตายไปแล้ว และหลุมฝังศพของเขาก็อยู่ในเมืองนี้จนถึงทุกวันนี้ |
|