หัวข้อ พระเจ้า พระพร มาอย่างที่คุณเป็น ประการ คำสาป พรทางการเงิน อิสระ พระคุณของพระเจ้า ความรักของพระเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้า (เวลา) ของพระเจ้า ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณ ปาฏิหาริย์ ชื่อของพระเจ้า เครื่องเซ่นไหว้พระเจ้า แผน ได้รับการช่วยให้รอดจากบาป ตรีเอกานุภาพ เวลา ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไวรัส / โรค พระเจ้าคือใคร ตัวละครที่ดี การยอมรับ การละเว้น การรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ดูแล ความสะอาด ความมุ่งมั่น ความมั่นใจ ความพึงพอใจ ความกล้าหาญ / กล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจ ระเบียบวินัย ศรัทธา กตัญญู การต้อนรับ ถ่อมตัว ซื่อสัตย์ เกียรติยศ ความซื่อสัตย์ ความกรุณา รัก ความพอประมาณ ความเมตตา ความอดทน การชำระให้บริสุทธิ์ การควบคุมตนเอง ความน่าเชื่อถือ ตัวละครไม่ดี ความโกรธ การทรยศ กลั่นแกล้ง ความขมขื่น บ่น ขัดแย้ง กลัว โง่ พวกไม่จริงใจ ความหึงหวง วิจารณญาณ ขี้เกียจ ความภาคภูมิใจ การแก้แค้น โต๊ะเครื่องแป้ง ความรุนแรง บาป การทำแท้ง ติดยาเสพติด การผิดประเวณี การละทิ้งศาสนา การแช่ง หย่า อิจฉา การผิดประเวณี ตะกละ ซุบซิบ ความโลภ เกลียด หื่น โกหก สำเร็จความใคร่ ผัดวันประกันพรุ่ง ขโมย ชีวิต เริ่มแก่ขึ้น สัตว์ เอาเด็ก วันเกิด ความงาม อยู่คนเดียว การออกเดทกับผู้คน ความตาย อาการซึมเศร้า ความผิดหวัง ความเข้าใจ ออกกำลังกาย จริยธรรม อดอาหาร ค้นหาความรัก โฟกัส ครอบครัว อาหาร ความผิด สุขภาพ ความสุข นรก ภาวะมีบุตรยาก การสูญเสียงาน การสูญเสีย ป่วยทางจิต เพลง การแต่งงาน ให้พระเจ้าเป็นอันดับแรก ความเจ็บปวด การเลี้ยงดู การต่อสู้ เพศ การทดลอง ล่อ ข้อสำหรับผู้ชาย ข้อสำหรับผู้หญิง สงคราม ความมั่งคั่ง แม่ม่าย โบสถ์ เข้าร่วมคริสตจักร กำเนิดของพระเยซู การกดขี่คริสตจักร พระลูกวัด ครูผู้สอนเท็จ ไปสวรรค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเมสสิยาห์ในพระคัมภีร์ ศิษยาภิบาล สรรเสริญพระเจ้า คำอุปมาจากพระเยซู วันเพ็นเทคอสต์ การพูดเป็นภาษา ส่วนสิบ นมัสการ บทบาทสตรี ลึกลับ มนุษย์ต่างดาว โรคมะเร็ง โชคชะตา ไดโนเสาร์ มังกร ความฝัน โลกแบนหรือกลม ยักษ์ในพระคัมภีร์ วันสุดท้ายในอนาคต ยูนิคอร์น เทวดาและปีศาจ เป็นอันขาด เทวดา ซาตาน ปีศาจ การ์เดียนแองเจิล ลูซิเฟอร์ หมอผี / เวทมนตร์ สัญญาณคณิตศาสตร์ หมายเลข ๓ หมายเลข ๕ หมายเลข ๗ หมายเลข ๘ หมายเลข ๑๐ เพิ่มเติม แอลกอฮอล์ ความอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่น่ารังเกียจ อกหัก การกินคน โทษประหาร ยาเสพติด ชั่วร้าย อารมณ์ วันฮาโลวีน ช่วยเหลือคนยากจน การแท้งบุตร ตำรวจ เจาะ / ต่างหู สามี ฟื้นฟู ความเศร้า วิทยาศาสตร์ การป้องกันตัวเอง การเป็นทาส การฆ่าตัวตาย พรสวรรค์ รอยสัก งาน ชีวิต: [ความเจ็บปวด] เยเรมีย์ ๒๙:๑๑พระยาห์เวห์พูดว่า “เพราะเรารู้แผนงานต่างๆที่เราวางไว้ให้กับเจ้า เป็นแผนงานสำหรับความเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่สำหรับความหายนะ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังกับเจ้าสดุดี ๓๔:๑๘พระยาห์เวห์อยู่ใกล้ และพร้อมที่จะช่วยคนที่หมดกำลังใจ และพระองค์ช่วยกู้คนที่สิ้นหวังสดุดี ๑๔๗:๓พระองค์เยียวยาผู้ที่ใจแตกสลาย และพันแผลให้พวกเขาวิวรณ์ ๒๑:๔พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดของเขา แล้วจะไม่มีความตาย ความเศร้าโศก การร้องไห้หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะสิ่งเก่าๆที่เคยเป็นมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว”มัทธิว ๔:๒๓-๒๕[๒๓] พระเยซูเดินทางไปทั่วแคว้นกาลิลี เพื่อสั่งสอนคนตามที่ประชุมชาวยิว และประกาศข่าวดีเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งสวรรค์ให้ทุกคนรู้ นอกจากนี้ยังได้รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้กับคนในเมืองจนหายด้วย [๒๔] ทำให้ชื่อเสียงของพระองค์เลื่องลือไปทั่วประเทศซีเรีย ผู้คนแห่กันมาหาพระเยซู เขาพาคนที่เจ็บป่วยทนทุกข์ทรมานด้วยโรคต่างๆ คนถูกผีสิง คนเป็นลมบ้าหมู และคนเป็นอัมพาตมาด้วย แล้วพระองค์ได้รักษาพวกเขาจนหายหมดทุกคน [๒๕] คนจำนวนมากพากันติดตามพระองค์ มีทั้งคนจากแคว้นกาลิลี แคว้นเดคาโปลิศ เมืองเยรูซาเล็ม แคว้นยูเดีย และดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน สดุดี ๒๓:๑-๖[๑] เพลงสดุดีของดาวิด พระยาห์เวห์เลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนเลี้ยงแกะ ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่ขาดอะไรเลย [๒] พระองค์นำข้าพเจ้าไปนอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี พระองค์นำข้าพเจ้าไปยังลำธารที่สงบเงียบ [๓] พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ากลับมีเรี่ยวแรงเหมือนเดิม พระองค์นำข้าพเจ้าเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องทั้งหลายเพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีของพระองค์ [๔] แม้ในยามที่ข้าพเจ้าเดินไปตามหุบเขาที่มืดมิดอย่างความตาย ข้าพเจ้าก็ไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งนั้น เพราะพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า ไม้กระบองและไม้เท้าเลี้ยงแกะของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัย [๕] พระองค์จัดโต๊ะสำหรับข้าพเจ้าต่อหน้าพวกศัตรูของข้าพเจ้า พระองค์ต้อนรับข้าพเจ้าอย่างแขกผู้มีเกียรติ ถ้วยของข้าพเจ้าเต็มจนเอ่อล้น [๖] ความดีและความรักมั่นคงของพระองค์ จะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน และข้าพเจ้าจะอาศัยอยู่ในบ้านของพระยาห์เวห์ไปนานแสนนาน ๒ โครินธ์ ๑:๓-๘[๓] สรรเสริญพระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พระบิดาผู้เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา พระเจ้าผู้ที่ปลอบโยนเราในทุกเรื่อง [๔] เมื่อเรามีความทุกข์ พระองค์ปลอบโยนเรา เพื่อว่าเมื่อคนอื่นมีความทุกข์ เราจะได้ปลอบโยนเขาเหมือนกับที่พระเจ้าทำกับเรา [๕] ยิ่งเราร่วมทุกข์กับพระคริสต์มากเท่าไร พระเจ้าก็จะปลอบโยนเรามากขึ้นเท่านั้น โดยผ่านทางพระคริสต์ [๖] ถ้าเราได้รับความทุกข์ทรมาน ก็เพื่อพวกคุณจะได้รับการปลอบโยนและได้รับความรอด ถ้าเราได้รับการปลอบโยน ก็เพื่อพวกคุณจะได้รับการปลอบโยนด้วย ซึ่งมีผลทำให้คุณมีความทรหดอดทนต่อความทุกข์แบบเดียวกับที่เราได้รับ [๗] เรามีความมั่นใจในตัวพวกคุณมาก เพราะคุณได้ร่วมทุกข์และร่วมการปลอบโยนกับเรา [๘] พี่น้องครับ เราอยากให้พวกคุณรู้ถึงความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เราเจอในแคว้นเอเชีย ซึ่งหนักเกินกว่าที่เราจะทนได้ เราหมดหวังจนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว ๑ เปโตร ๔:๑๒-๑๙[๑๒] เพื่อนรัก อย่าเพิ่งแปลกใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย แต่ปัญหาก็คือการลองใจคุณ [๑๓] ให้ดีใจที่คุณได้ร่วมทุกข์กับพระคริสต์ เพราะคุณจะได้ดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อพระคริสต์กลับมาอย่างมีเกียรติ [๑๔] เมื่อมีคนประณามคุณเพราะคุณเป็นของพระคริสต์ คุณก็มีเกียรติอย่างแท้จริง เพราะแสดงว่าพระวิญญาณผู้ทรงเกียรติของพระเจ้านั้นอยู่กับพวกคุณ [๑๕] ถ้าคุณจะต้องทนทุกข์ ก็ขออย่าให้เป็นเพราะคุณไปฆ่าคนมา ไปขโมย ไปทำชั่ว หรือไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเลย [๑๖] แต่ถ้าคุณต้องทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน ก็อย่าอายเลย แต่ให้สรรเสริญพระเจ้า เพราะคุณได้ชื่อว่าคริสเตียน [๑๗] ถึงเวลาสำหรับการตัดสินโทษแล้ว การตัดสินนั้นจะเริ่มต้นจากครอบครัวของพระเจ้าก่อน แล้วลองคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่เชื่อฟังข่าวดีจากพระเจ้า [๑๘] เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ขนาดคนที่ทำตามใจพระเจ้า ยังเกือบจะไม่รอด แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับคนชั่วและคนบาปเล่า” [๑๙] ถ้าอย่างนั้น คนที่ต้องทนทุกข์เพราะเป็นความต้องการของพระเจ้านั้น ก็ต้องมอบตัวเองไว้กับพระผู้สร้างที่ซื่อสัตย์ และให้ทำดีต่อไป ยอห์น ๑๖:๑๖-๒๔[๑๖] “อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก” [๑๗] พวกศิษย์บางคนถามกันเองว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ กับที่ว่า ‘เรากำลังจะไปหาพระบิดา’” [๑๘] พวกเขาก็ยังถามกันอีกว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่ง’ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าอาจารย์พูดถึงอะไร” [๑๙] พระเยซูรู้ว่าพวกเขาอยากจะถามเรื่องนี้ พระองค์จึงถามว่า “พวกคุณกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า เราหมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ [๒๐] เราจะบอกให้รู้ว่า คุณจะร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจ แต่โลกจะรื่นเริงยินดี คุณจะทุกข์ใจ แต่ความทุกข์ใจนั้นจะกลับกลายมาเป็นความดีใจ [๒๑] เหมือนกับผู้หญิงที่ถึงกำหนดคลอดก็เป็นทุกข์เพราะความเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อเธอคลอดลูกแล้วก็ลืมความเจ็บปวดไปหมด เพราะดีใจที่ได้เห็นลูกเกิดมาในโลกนี้ [๒๒] พวกคุณก็เหมือนกัน ตอนนี้คุณทุกข์ใจ แต่เมื่อเรากลับมาหาคุณอีก คุณก็จะดีใจ แล้วไม่มีใครจะแย่งเอาความดีใจนั้นไปจากคุณได้ [๒๓] ในวันนั้นคุณจะไม่ต้องถามอะไรเราอีกแล้ว เราจะบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอเพราะคุณเป็นคนของเรา พระบิดาก็จะให้กับคุณ [๒๔] ตั้งแต่คุณเป็นคนของเรามาจนถึงเดี๋ยวนี้ พวกคุณยังไม่เคยขออะไรในฐานะคนของเรา ขอสิแล้วคุณจะได้ เพื่อคุณจะได้มีความสุขอย่างเต็มที่” ฮีบรู ๑๒:๑-๑๑[๑] ดังนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายล้อมรอบเราอยู่อย่างนี้แล้ว ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงเราไว้ และบาปที่เกาะติดเราแน่น และขอให้วิ่งแข่งด้วยความมานะอดทนไปตามทางที่อยู่ข้างหน้าเรา [๒] ขอให้เราจ้องอยู่ที่พระเยซู ซึ่งเป็นผู้นำความเชื่อของเราและเป็นผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์แบบ พระองค์ได้อดทนต่อการถูกตรึงบนไม้กางเขน เพื่อความยินดีที่รอพระองค์อยู่ พระองค์ไม่สนใจกับความอับอายที่ต้องตายบนไม้กางเขน และในตอนนี้พระองค์ได้นั่งอยู่ทางขวาของบัลลังก์ของพระเจ้า [๓] ขอให้ใคร่ครวญถึงพระองค์ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจากคนบาปที่ต่อต้านพระองค์ เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ท้อใจหรือยอมแพ้ [๔] ในเรื่องที่พวกคุณต้องต่อสู้กับบาปนั้น คุณยังไม่ต้องต่อสู้จนถึงกับเลือดตกยางออกเลย [๕] พวกคุณคงจะลืมคำที่ให้กำลังใจ คำพูดนี้เป็นคำที่ได้พูดกับคุณในฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้าว่า “ลูกเอ๋ย อย่าถือว่าการตีสอนขององค์เจ้าชีวิตนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ และอย่าหมดกำลังใจเมื่อพระองค์มาตักเตือนเจ้า [๖] เพราะองค์เจ้าชีวิตจะตีสอนคนที่พระองค์รัก และจะลงโทษทุกคนที่พระองค์รับเป็นลูก” [๗] ให้อดทนต่อความยากลำบาก เพราะเป็นการตีสอน แสดงว่าพระเจ้ากำลังทำกับพวกคุณเหมือนเป็นลูกของพระองค์ มีลูกคนไหนบ้างที่พ่อไม่เคยตีสอน [๘] ถ้าคุณไม่ถูกตีสอนเหมือนกับลูกทั่วๆไป แสดงว่าไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ [๙] เราทุกคนมีพ่อที่เป็นมนุษย์ที่คอยตีสอนเรา แต่เราก็ยังเคารพเขาอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นอีกสักเท่าไร เราควรจะเชื่อฟังพระบิดาของจิตวิญญาณเรา เพื่อเราจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป [๑๐] พ่อของเราที่เป็นมนุษย์จะตีสอนเราแค่ชั่วคราวตามที่เห็นว่าควร แต่พระเจ้าจะตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะได้มีลักษณะเหมือนพระองค์ [๑๑] ตอนที่ถูกตีสอนนั้น ไม่มีใครชอบหรอกเพราะมันเจ็บ แต่ภายหลังการตีสอนนั้นจะฝึกฝนเรา แล้วผลที่ออกมาก็คือสันติสุข และชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ โรม ๘:๑๘-๒๘[๑๘] ผมถือว่าความทุกข์ยากในชีวิตนี้ ไม่หนักหนาอะไรเลย เมื่อเปรียบเทียบกับศักดิ์ศรีที่พระองค์จะเปิดเผยให้กับเราในอนาคต [๑๙] เพราะทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาในโลกนี้ กำลังตั้งตาคอยวันที่พระเจ้าจะเปิดเผยให้เห็นว่าใครเป็นลูกๆของพระองค์บ้าง [๒๐] ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาในโลกนี้ พระเจ้าทำให้มันอยู่ในสภาพที่ผิดเพี้ยนไป ไม่ใช่ว่าตัวมันเองอยากเป็นอย่างนั้น แต่พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้เป็นอย่างนั้น เพราะมีความหวังว่า [๒๑] ทุกสิ่งที่พระองค์สร้างมานี้ จะได้หลุดพ้นจากการเป็นทาสของความเสื่อมโทรม แล้วจะได้เป็นอิสระและมีศักดิ์ศรีร่วมกับลูกๆของพระเจ้า [๒๒] เพราะเรารู้ว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาในโลกนี้ยังร้องคร่ำครวญ ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวมาจนถึงเดี๋ยวนี้ (เหมือนกับผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก) [๒๓] ไม่ใช่แต่เฉพาะพวกนั้นที่ร้องคร่ำครวญ แม้แต่เราเองก็ยังร้องคร่ำครวญอยู่ในใจด้วย ทั้งๆที่เราได้รับพระวิญญาณซึ่งเป็นพระพรส่วนแรกจากพระเจ้าแล้ว เรายังตั้งตารอคอยวันที่พระองค์จะทำให้เราเป็นลูกของพระองค์อย่างสมบูรณ์ เมื่อนั้นร่างกายของเราจะได้หลุดพ้นเป็นอิสระ [๒๔] พระเจ้าได้ช่วยชีวิตเราแล้ว เราจึงมีความหวังนี้อยู่ในใจ ความหวังที่เราเห็นได้นั้นไม่เรียกว่าความหวังหรอก เพราะใครจะไปหวังกับสิ่งที่เขาเห็นแล้ว [๒๕] แต่เราหวังในสิ่งที่เรายังมองไม่เห็น และเราก็ตั้งตารอคอยมันด้วยความอดทน [๒๖] ในทำนองเดียวกันพระวิญญาณก็มาช่วยเราในความอ่อนแอของเราด้วย เราไม่รู้ว่าเราควรจะขออะไรเวลาที่เราอธิษฐาน แต่พระวิญญาณเองได้ขอต่อพระเจ้าแทนเราด้วยเสียงร้องคร่ำครวญที่ไม่เป็นคำ [๒๗] แต่พระเจ้าผู้หยั่งรู้จิตใจรู้ว่าอะไรอยู่ในจิตใจของพระวิญญาณ เพราะพระวิญญาณได้ร้องขอให้กับคนที่เป็นของพระเจ้า ตามที่พระเจ้าชอบใจ [๒๘] เรารู้ว่าพระเจ้าทำให้ทุกอย่างเกิดผลดีสำหรับคนที่รักพระองค์ พวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าเรียกตามแผนงานของพระองค์ สดุดี ๙๑:๑-๑๖[๑] พวกเจ้าที่พักอยู่ในที่กำบังแห่งพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ใต้ร่มเงาของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น [๒] ให้พูดกับพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์คือที่ลี้ภัยและป้อมปราการของข้าพเจ้า เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าผู้ที่ข้าพเจ้าไว้วางใจ” [๓] พระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากตาข่ายของนักล่านก พระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากโรคร้ายแรง [๔] พระองค์จะกางปีกออกเหนือท่านและให้ท่านหลบภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์นั้น ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะเป็นโล่และกำแพงป้องกันภัยให้กับท่าน [๕] ท่านจะไม่ต้องกลัวการโจมตีในตอนกลางคืน หรือการจู่โจมด้วยลูกธนูในตอนกลางวัน [๖] ท่านจะไม่ต้องกลัวโรคที่ย่องเข้ามาตอนกลางคืน หรือความเจ็บป่วยที่เข้ามาปล้นในตอนกลางวัน [๗] คนเป็นพันอาจจะล้มตายอยู่ข้างท่าน คนเป็นหมื่นอาจจะล้มตายอยู่ทางขวาของท่าน แต่จะไม่มีอันตรายย่างกรายเข้ามาหาท่านเลย [๘] ใช่แล้ว ท่านจะเห็นสิ่งเหล่านี้กับตาท่านเอง ท่านจะได้เห็นคนชั่วร้ายได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม [๙] เพราะท่านเอาพระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัยของท่าน ท่านให้พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดเป็นที่ปลอดภัยของท่าน [๑๐] ดังนั้น จึงไม่มีความหายนะใดๆแตะต้องท่าน ไม่มีโรคระบาดใดๆเข้าไปในเต็นท์ของท่านได้ [๑๑] เพราะไม่ว่าท่านจะไปที่ไหนก็ตาม พระเจ้าจะมอบหมายให้พวกทูตสวรรค์คอยคุ้มครองท่าน [๑๒] ทูตสวรรค์เหล่านั้นจะเอามือยกท่านขึ้น เพื่อเท้าท่านจะได้ไม่ต้องกระแทกก้อนหิน [๑๓] ท่านจะเดินบนพวกสิงโตและงูเห่า และเหยียบย่ำพวกสิงโตดุร้ายและพวกงูพิษได้ [๑๔] พระยาห์เวห์พูดว่า “เขารักเรา ดังนั้น เราจะช่วยเหลือเขา เราจะวางเขาไว้บนที่สูงที่ปลอดภัยเพราะเขารู้จักเราจริงๆ [๑๕] เมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะตอบเขา เราอยู่กับเขาในยามที่เขาทุกข์ยาก เราช่วยให้เขาพ้นภัยและทำให้เขามีเกียรติ [๑๖] เราจะทำให้เขาเต็มอิ่มด้วยชีวิตที่ยืนยาว แล้วให้เขาเห็นว่าเราสามารถช่วยให้เขารอดได้” Thai Bible (ERV) 2001 Copyright © 2001 by Bible League International