ข้อพระคัมภีร์ในหัวข้อ

หัวข้อ
พระเจ้า
ตัวละครที่ดี
ตัวละครไม่ดี
บาป
ชีวิต
โบสถ์
ลึกลับ
เทวดาและปีศาจ
สัญญาณคณิตศาสตร์
เพิ่มเติม
โบสถ์: [วันเพ็นเทคอสต์]
[๒๒] “จงฉลองเทศกาลแห่งสัปดาห์ด้วยผลิตผลแรกสุดของการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีและเทศกาลรวบรวมผลผลิตในปลายปี [๒๓] ชายอิสราเอลทุกคนจะต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าแห่งอิสราเอลปีละสามครั้ง [๒๔] เมื่อเจ้ามาเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าปีละสามครั้งนั้น จะไม่มีผู้ใดมาโลภชิงดินแดนของเจ้า เราจะขับไล่ชนชาติทั้งหลายออกไปต่อหน้าเจ้าและขยายพรมแดนของเจ้าออกไป [๒๕] “อย่าถวายเลือดของเครื่องบูชาแก่เราพร้อมกับสิ่งใดๆ ที่ใส่เชื้อ และอย่าให้เครื่องบูชาของพิธีปัสกานั้นเหลือค้างจนถึงรุ่งเช้า [๒๖] “จงนำส่วนที่ดีที่สุดของผลิตผลรุ่นแรกจากแผ่นดินของเจ้ามายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า “อย่าต้มลูกแพะในน้ำนมแม่ของมัน” [๒๗] แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเขียนข้อความเหล่านี้ไว้ เพราะเราได้ทำพันธสัญญากับเจ้าและกับอิสราเอลตามนี้” [๒๘] โมเสสเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย และเขาจารึกข้อความแห่งพันธสัญญาคือ พระบัญญัติสิบประการลงบนแผ่นศิลาทั้งสองนั้น [๒๙] เมื่อโมเสสลงมาจากภูเขาซีนายพร้อมด้วยศิลาจารึกสองแผ่นนั้น โมเสสไม่รู้ว่าใบหน้าของเขามีรัศมีแจ่มจ้าจากการที่ได้สนทนากับองค์พระผู้เป็นเจ้า [๓๐] รัศมีแจ่มจ้าบนใบหน้าของเขาทำให้อาโรนและชนอิสราเอลทั้งปวงกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ [๓๑] แต่โมเสสเรียกคนเหล่านั้นมา ดังนั้นอาโรนและผู้นำชุมชนทั้งปวงก็กลับมาหาเขา โมเสสจึงสนทนากับพวกเขา [๓๒] หลังจากนั้นชนอิสราเอลทั้งปวงก็มาใกล้โมเสส เขาก็มอบพระบัญชาทั้งปวงซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เขาบนภูเขาซีนายให้แก่คนเหล่านั้น [๓๓] เมื่อโมเสสสนทนากับพวกเขาจบแล้ว เขาก็เอาผ้ามาคลุมหน้า [๓๔] แต่เมื่อใดที่เขาไปเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อสนทนากับพระองค์ เขาจะเอาผ้าคลุมหน้าออกจนกว่าจะกลับออกมาแจ้งพระบัญชาแก่ชนอิสราเอล [๓๕] เหล่าประชากรจะเห็นใบหน้าของเขามีรัศมีแจ่มจ้า จากนั้นโมเสสก็จะเอาผ้าคลุมหน้าอีกจนกว่าจะกลับไปสนทนากับองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง [๓๖] โมเสสจึงเรียกชนอิสราเอลทั้งหมดมาประชุมและกล่าวกับพวกเขาว่า “ต่อไปนี้คือสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายทำ [๓๗] จงทำงานเพียงหกวัน ส่วนวันที่เจ็ดจะเป็นวันบริสุทธิ์ เป็นสะบาโตแห่งการหยุดพักถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ใดทำงานในวันนั้นจะต้องตาย [๓๘] ในวันสะบาโตอย่าก่อไฟในที่พักของพวกเจ้า” [๓๙] โมเสสกล่าวแก่ชุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า [๔๐] ทุกคนที่เต็มใจ จงนำสิ่งต่างๆ ที่เจ้ามีดังต่อไปนี้มาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้แก่ทองคำ เงิน และทองสัมฤทธิ์ [๔๑] ด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดง ผ้าลินินเนื้อดี ขนแพะ [๔๒] หนังแกะตัวผู้ย้อมสีแดง หนังพะยูน ไม้กระถินเทศ [๔๓] น้ำมันมะกอกสำหรับจุดประทีป เครื่องเทศสำหรับปรุงน้ำมันเพื่อใช้เจิมและสำหรับเครื่องหอม
[๙] เจ็ดสัปดาห์หลังจากที่ท่านเริ่มลงมือเกี่ยวข้าว [๑๐] จงฉลองเทศกาลแห่งสัปดาห์ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยถวายเครื่องบูชาตามความสมัครใจ ตามสัดส่วนของพระพรที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ประทานแก่ท่าน [๑๑] และท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวีในเมืองของท่าน คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน จงชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ [๑๒] อย่าลืมว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ฉะนั้นจงใส่ใจปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ [๑๓] หลังจากเก็บรวบรวมผลิตผลจากลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นแล้ว จงฉลองเทศกาลอยู่เพิงตลอดเจ็ดวัน [๑๔] ท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายในเมืองของท่านจงฉลองวาระชื่นชมยินดีด้วยกัน [๑๕] ตลอดเจ็ดวันจงฉลองเทศกาลนี้ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านในการเก็บเกี่ยวและในการงานทุกอย่างที่ท่านทำ และท่านจะชื่นชมยินดีเต็มที่ [๑๖] ชายทุกคนในอิสราเอลต้องเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้งในสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงเลือกในเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ เทศกาลแห่งสัปดาห์ และเทศกาลอยู่เพิง อย่าให้ผู้ใดเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้ามือเปล่า [๑๗] แต่ละคนจงนำของถวายมาตามสัดส่วนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอวยพร [๑๘] จงแต่งตั้งตุลาการและเจ้าหน้าที่ปกครองสำหรับแต่ละเผ่าในทุกเมืองซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะประทานแก่ท่าน คนเหล่านี้จะตัดสินความอย่างยุติธรรม [๑๙] อย่าบิดเบือนความยุติธรรมหรือมีอคติลำเอียง อย่ารับสินบนเพราะสินบนบังตาคนที่มีสติปัญญาและบิดเบือนถ้อยคำของผู้ชอบธรรม [๒๐] จงปฏิบัติตามความยุติธรรมเท่านั้น เพื่อท่านจะมีชีวิตอยู่และครอบครองดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะประทานแก่ท่าน [๒๑] อย่าตั้งเสาไม้ของเจ้าแม่อาเชราห์ขึ้นข้างๆ แท่นบูชาที่ท่านสร้างถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน [๒๒] และอย่าตั้งหินศักดิ์สิทธิ์ขึ้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเกลียดชังสิ่งเหล่านี้ [๒๓] อย่าถวายแกะหรือวัวที่มีตำหนิหรือพิการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพระองค์ [๒๔] หากชายหรือหญิงคนใดที่อยู่ท่ามกลางท่านในเมืองใดเมืองหนึ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ท่าน ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านโดยการละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ [๒๕] ไปนมัสการกราบไหว้พระอื่นๆ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว ซึ่งข้าพเจ้าได้สั่งห้ามไว้
[๑] เมื่อถึงวันเพ็นเทคอสต์ พวกเขาทั้งหมดมารวมอยู่ในที่เดียวกัน [๒] ทันใดนั้นก็มีเสียงจากฟ้าสวรรค์เหมือนเสียงพายุกล้าดังก้องไปทั่วทั้งบ้านที่เขานั่งอยู่ [๓] พวกเขาเห็นสิ่งที่ดูเหมือนเปลวไฟรูปร่างคล้ายลิ้นกระจายออกและมาอยู่เหนือพวกเขาแต่ละคน [๔] ทุกคนเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และเริ่มพูดภาษาต่างๆ ตามที่พระวิญญาณทรงโปรดให้พวกเขาสามารถพูดได้ [๕] ขณะนั้นมีพวกยิวผู้ยำเกรงพระเจ้าจากทุกชาติทั่วใต้ฟ้าสวรรค์มาพักอยู่ที่เยรูซาเล็ม [๖] เมื่อได้ยินเสียงนี้ฝูงชนก็มาชุมนุมกันด้วยความงุนงงสงสัยเพราะแต่ละคนต่างก็ได้ยินพวกเขาพูดภาษาของตน [๗] พวกเขาจึงถามด้วยความอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งว่า “คนเหล่านี้ที่กำลังพูดอยู่ล้วนเป็นชาวกาลิลีไม่ใช่หรือ? [๘] แล้วเหตุใดเราแต่ละคนจึงได้ยินพวกเขาพูดภาษาท้องถิ่นของเรา? [๙] ไม่ว่าชาวปารเธีย ชาวมีเดีย และชาวเอลาม คนที่อยู่ในแถบเมโสโปเตเมีย ยูเดีย คัปปาโดเซีย ปอนทัสและเอเชีย [๑๐] ฟรีเจียและปัมฟีเลีย อียิปต์และส่วนต่างๆ ของลิเบียแถวไซรีน ผู้มาเยือนจากกรุงโรม [๑๑] (ทั้งชาวยิวกับผู้เข้าจารีตยิว) ชาวเกาะครีต และชาวอาหรับ พวกเราได้ยินเขาประกาศความอัศจรรย์ของพระเจ้าด้วยภาษาของเราเอง!” [๑๒] เขาทั้งหลายล้วนอัศจรรย์ใจและฉงนสนเท่ห์จึงถามกันว่า “นี่หมายความว่าอย่างไร?” [๑๓] แต่บางคนก็ล้อเลียนพวกเขาว่า “พวกนั้นดื่มเหล้าองุ่น มากเกินไป”
Thai Bible (TNCV) 2007
พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย สงวนลิขสิทธิ์ © 1999, 2001, 2007 โดยองค์การอมตธรรม Thai New Contemporary Version Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission of Biblica, Inc.® worldwide