หัวข้อ พระเจ้า พระพร มาอย่างที่คุณเป็น ประการ คำสาป พรทางการเงิน อิสระ พระคุณของพระเจ้า ความรักของพระเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้า (เวลา) ของพระเจ้า ฉันจะไม่มีวันทิ้งคุณ ปาฏิหาริย์ ชื่อของพระเจ้า เครื่องเซ่นไหว้พระเจ้า แผน ได้รับการช่วยให้รอดจากบาป ตรีเอกานุภาพ เวลา ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไวรัส / โรค พระเจ้าคือใคร ตัวละครที่ดี การยอมรับ การละเว้น การรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ดูแล ความสะอาด ความมุ่งมั่น ความมั่นใจ ความพึงพอใจ ความกล้าหาญ / กล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจ ระเบียบวินัย ศรัทธา กตัญญู การต้อนรับ ถ่อมตัว ซื่อสัตย์ เกียรติยศ ความซื่อสัตย์ ความกรุณา รัก ความพอประมาณ ความเมตตา ความอดทน การชำระให้บริสุทธิ์ การควบคุมตนเอง ความน่าเชื่อถือ ตัวละครไม่ดี ความโกรธ การทรยศ กลั่นแกล้ง ความขมขื่น บ่น ขัดแย้ง กลัว โง่ พวกไม่จริงใจ ความหึงหวง วิจารณญาณ ขี้เกียจ ความภาคภูมิใจ การแก้แค้น โต๊ะเครื่องแป้ง ความรุนแรง บาป การทำแท้ง ติดยาเสพติด การผิดประเวณี การละทิ้งศาสนา การแช่ง หย่า อิจฉา การผิดประเวณี ตะกละ ซุบซิบ ความโลภ เกลียด หื่น โกหก สำเร็จความใคร่ ผัดวันประกันพรุ่ง ขโมย ชีวิต เริ่มแก่ขึ้น สัตว์ เอาเด็ก วันเกิด ความงาม อยู่คนเดียว การออกเดทกับผู้คน ความตาย อาการซึมเศร้า ความผิดหวัง ความเข้าใจ ออกกำลังกาย จริยธรรม อดอาหาร ค้นหาความรัก โฟกัส ครอบครัว อาหาร ความผิด สุขภาพ ความสุข นรก ภาวะมีบุตรยาก การสูญเสียงาน การสูญเสีย ป่วยทางจิต เพลง การแต่งงาน ให้พระเจ้าเป็นอันดับแรก ความเจ็บปวด การเลี้ยงดู การต่อสู้ เพศ การทดลอง ล่อ ข้อสำหรับผู้ชาย ข้อสำหรับผู้หญิง สงคราม ความมั่งคั่ง แม่ม่าย โบสถ์ เข้าร่วมคริสตจักร กำเนิดของพระเยซู การกดขี่คริสตจักร พระลูกวัด ครูผู้สอนเท็จ ไปสวรรค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเมสสิยาห์ในพระคัมภีร์ ศิษยาภิบาล สรรเสริญพระเจ้า คำอุปมาจากพระเยซู วันเพ็นเทคอสต์ การพูดเป็นภาษา ส่วนสิบ นมัสการ บทบาทสตรี ลึกลับ มนุษย์ต่างดาว โรคมะเร็ง โชคชะตา ไดโนเสาร์ มังกร ความฝัน โลกแบนหรือกลม ยักษ์ในพระคัมภีร์ วันสุดท้ายในอนาคต ยูนิคอร์น เทวดาและปีศาจ เป็นอันขาด เทวดา ซาตาน ปีศาจ การ์เดียนแองเจิล ลูซิเฟอร์ หมอผี / เวทมนตร์ สัญญาณคณิตศาสตร์ หมายเลข ๓ หมายเลข ๕ หมายเลข ๗ หมายเลข ๘ หมายเลข ๑๐ เพิ่มเติม แอลกอฮอล์ ความอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่น่ารังเกียจ อกหัก การกินคน โทษประหาร ยาเสพติด ชั่วร้าย อารมณ์ วันฮาโลวีน ช่วยเหลือคนยากจน การแท้งบุตร ตำรวจ เจาะ / ต่างหู สามี ฟื้นฟู ความเศร้า วิทยาศาสตร์ การป้องกันตัวเอง การเป็นทาส การฆ่าตัวตาย พรสวรรค์ รอยสัก งาน โบสถ์: [ครูผู้สอนเท็จ] เอเสเคียล ๑๓:๙มือของเราจะต่อสู้กับบรรดาผู้เผยพระวจนะที่เห็นนิมิตจอมปลอมและกล่าวคำทำนายโกหก พวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมสภาประชาชนของเราหรือขึ้นทะเบียนสำมะโนพงศ์พันธุ์อิสราเอล ทั้งจะไม่ได้เข้าสู่ดินแดนอิสราเอล แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเยเรมีย์ ๒๓:๑๖พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “อย่าฟังสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นพยากรณ์แก่เจ้า พวกเขาให้แต่ความหวังลมๆ แล้งๆ แจ้งนิมิตต่างๆ จากความคิดของตน ไม่ใช่ถ้อยคำจากพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าลูกา ๖:๒๖วิบัติแก่เจ้าเมื่อคนทั้งปวงยกย่องเจ้า เพราะบรรพบุรุษของเขาได้ปฏิบัติเช่นเดียวกันนั้นกับบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จมัทธิว ๒๔:๒๔เพราะพระคริสต์ปลอมและผู้เผยพระวจนะเท็จจะปรากฏขึ้นและแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เพื่อลวงแม้กระทั่งผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ถ้าเป็นไปได้มัทธิว ๑๖:๑๑-๑๒[๑๑] เหตุใดท่านจึงไม่เข้าใจว่าเราไม่ได้พูดถึงขนมปัง? แต่พวกท่านจงระวังเชื้อของพวกฟาริสีและสะดูสี” [๑๒] แล้วพวกเขาจึงเข้าใจว่าพระองค์ไม่ได้ทรงเตือนให้ระวังเชื้อที่ใช้ในขนมปัง แต่ให้ระวังคำสอนของพวกฟาริสีและสะดูสี ๒ ทิโมธี ๔:๓-๔[๓] เพราะวาระนั้นจะมาถึง เมื่อผู้คนจะทนคำสอนอันมีหลักไม่ได้ ตรงกันข้ามเขาจะรวบรวมครูจำนวนมากไว้พูดอย่างที่หูของเขาอยากได้ยิน เพื่อสนองความอยากของเขาเอง [๔] พวกเขาจะไม่ฟังความจริงและหันไปหานิยายปรัมปราต่างๆ ๒ ทิโมธี ๔:๓-๔[๓] เพราะวาระนั้นจะมาถึง เมื่อผู้คนจะทนคำสอนอันมีหลักไม่ได้ ตรงกันข้ามเขาจะรวบรวมครูจำนวนมากไว้พูดอย่างที่หูของเขาอยากได้ยิน เพื่อสนองความอยากของเขาเอง [๔] พวกเขาจะไม่ฟังความจริงและหันไปหานิยายปรัมปราต่างๆ กิจการของอัครทูต ๒๐:๒๘-๓๐[๒๘] ท่านทั้งหลาย จงเฝ้าระวังตัวของท่านเองและฝูงแกะทั้งสิ้นที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงตั้งให้ท่านเป็นผู้ปกครองดูแล จงเป็นคนเลี้ยงแกะสำหรับคริสตจักรของพระเจ้า ซึ่งทรงซื้อมาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง [๒๙] ข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อข้าพเจ้าจากไปสุนัขป่าร้ายกาจจะเข้ามาในหมู่พวกท่านและจะไม่ปล่อยฝูงแกะทั้งสิ้นไว้เลย [๓๐] แม้ในหมู่ท่านเองก็จะมีคนลุกขึ้นมาบิดเบือนความจริงเพื่อจะดึงเหล่าสาวกไปติดตามพวกเขา ๒ เปโตร ๓:๑๔-๑๘[๑๔] เช่นนั้นแล้วเพื่อนที่รัก ในเมื่อท่านกำลังเฝ้ารอสิ่งนี้อยู่ จงพยายามทุกวิถีทางที่จะให้พระองค์ทรงเห็นว่าท่านปราศจากข้อด่างพร้อย ไร้ตำหนิและมีสันติสุขในพระองค์ [๑๕] จงระลึกว่าที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงอดกลั้นพระทัยไว้ก็เพื่อให้คนทั้งหลายมีโอกาสได้รับความรอด เหมือนที่น้องเปาโลที่รักของเราได้เขียนจดหมายมาถึงท่านด้วยสติปัญญาที่พระเจ้าประทาน [๑๖] จดหมายทุกฉบับของเขาได้กล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ไว้ในทำนองเดียวกัน ในจดหมายของเขามีบางอย่างที่เข้าใจยากซึ่งพวกที่รู้ไม่จริงและไม่หนักแน่นได้บิดเบือนไป เช่นเดียวกับที่ได้บิดเบือนพระคัมภีร์ข้ออื่นๆ และนำความพินาศมาสู่ตนเอง [๑๗] เพราะฉะนั้นเพื่อนที่รัก ในเมื่อท่านทราบเช่นนี้แล้วก็จงระวังระไวเพื่อท่านจะไม่ถูกชักจูงให้หลงผิดไปตามคนไร้ศีลธรรมเหล่านี้ และไม่ตกจากที่อันมั่นคงของท่าน [๑๘] แต่จงเจริญขึ้นในพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเราและรู้จักพระองค์มากขึ้น ขอพระเกียรติสิริจงมีแด่พระองค์ทั้งบัดนี้และตลอดนิรันดร์! อาเมน ๑ ยอห์น ๔:๑-๖[๑] เพื่อนที่รัก อย่าเชื่อหมดทุกวิญญาณ แต่จงทดสอบดูว่าวิญญาณนั้นๆ มาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะมีผู้พยากรณ์เท็จมากมายเข้ามาในโลก [๒] นี่คือวิธีที่จะทำให้ท่านรู้ว่าเป็นพระวิญญาณของพระเจ้า คือทุกวิญญาณที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ก็มาจากพระเจ้า [๓] แต่ทุกวิญญาณที่ไม่ยอมรับพระเยซูก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่เป็นวิญญาณแห่งปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมาและบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว [๔] ลูกที่รัก ท่านมาจากพระเจ้าและได้ชนะคนพวกนั้น เพราะพระองค์ผู้ทรงอยู่ในท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้นั้นซึ่งอยู่ในโลก [๕] คนพวกนั้นมาจากโลกจึงพูดตามมุมมองของโลกและโลกก็ฟังเขา [๖] ส่วนเรามาจากพระเจ้า ผู้ใดรู้จักพระเจ้าย่อมฟังเรา แต่ผู้ที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าย่อมไม่ฟังเรา เช่นนี้เราจึงรู้ว่าเป็นพระวิญญาณ แห่งความจริงหรือวิญญาณแห่งความเท็จ มัทธิว ๗:๑๕-๒๐[๑๕] “จงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ เขามาหาพวกท่านในคราบแกะ แต่ภายในคือสุนัขป่าดุร้าย [๑๖] ท่านจะรู้จักเขาโดยผลของเขา กอหนามจะออกผลเป็นองุ่นและพุ่มหนามจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ? [๑๗] ในทำนองเดียวกัน ต้นไม้ที่ดีทุกต้นย่อมให้ผลที่ดี ส่วนต้นไม้เลวย่อมให้ผลที่เลว [๑๘] ต้นไม้ดีไม่อาจให้ผลเลวและต้นไม้เลวไม่อาจให้ผลดี [๑๙] ต้นไม้ทุกต้นที่ไม่ให้ผลดีก็ถูกโค่นและโยนลงในไฟ [๒๐] ฉะนั้นท่านจะรู้จักเขาได้จากผลของเขา ๒ เปโตร ๑:๑๒-๒๑[๑๒] ดังนั้นข้าพเจ้าจะเตือนท่านให้ระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอแม้ว่าท่านทราบเรื่องนี้แล้วและตั้งมั่นในความจริงที่มีอยู่ก็ตาม [๑๓] ข้าพเจ้าคิดว่าถูกต้องแล้วที่จะเตือนความจำของท่านตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในเรือนกายนี้ [๑๔] เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่นานจะต้องจากเรือนกายนี้ไปตามที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราได้ทรงสำแดงไว้แก่ข้าพเจ้าอย่างชัดเจน [๑๕] และข้าพเจ้าจะพยายามทำทุกวิถีทางให้พวกท่านสามารถระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอหลังจากข้าพเจ้าจากไปแล้ว [๑๖] เมื่อเราบอกพวกท่านถึงฤทธิ์อำนาจและการจะเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พวกเราไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาอย่างแยบยล แต่เราเป็นพยานผู้ได้เห็นพระบารมีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ [๑๗] เพราะพระเยซูทรงได้รับพระเกียรติและพระสิริจากพระเจ้าพระบิดา เมื่อมีพระสุรเสียงจากองค์ผู้ทรงเกียรติสิริยิ่งใหญ่ตรัสกับพระองค์ว่า “คนนี้คือลูกที่รักของเรา เราพอใจเขามาก” [๑๘] พวกเราเองได้ยินพระสุรเสียงนี้จากสวรรค์ขณะอยู่กับพระองค์ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ [๑๙] ดังนั้นพวกเราจึงมั่นใจในถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะมากยิ่งขึ้น จะเป็นการดีถ้าพวกท่านเอาใจใส่ถ้อยคำเหล่านี้ซึ่งเป็นเหมือนแสงสว่างส่องในที่มืดจนกว่าจะถึงรุ่งเช้าและดาวแห่งรุ่งอรุณจะปรากฏขึ้นในใจท่าน [๒๐] เหนือสิ่งอื่นใดท่านต้องเข้าใจว่าไม่มีคำพยากรณ์ใดในพระคัมภีร์ที่มาจากความเข้าใจของตัวผู้เผยพระวจนะเอง [๒๑] เพราะคำของผู้เผยพระวจนะนั้นไม่เคยเกิดจากเจตจำนงของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจเขา ทิตัส ๑:๖-๑๖[๖] ผู้ปกครองนั้นต้องปราศจากที่ติ เป็นสามีของภรรยาคนเดียว บุตรของเขาต้องเป็นผู้เชื่อและไม่มีพฤติกรรมที่ใครจะกล่าวหาได้ว่าเป็นคนพาลเกเรและไม่เชื่อฟัง [๗] เนื่องจากผู้ปกครอง ดูแลคริสตจักรได้รับมอบหมายงานของพระเจ้า เขาจึงต้องไม่มีที่ติ ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เลือดร้อนเจ้าโทสะ ไม่ดื่มสุราเมามาย ไม่ก้าวร้าวใช้กำลัง ไม่หาประโยชน์ในทางทุจริต [๘] แต่เขาต้องเป็นผู้มีน้ำใจรับรองแขก รักสิ่งที่ดี ควบคุมตัวเองได้ ยุติธรรม บริสุทธิ์ และมีวินัย [๙] เขาต้องยึดมั่นในหลักคำสอนอันเชื่อถือได้ตามที่เรียนรู้มา เพื่อเขาจะสามารถให้กำลังผู้อื่นด้วยคำสอนอันมีหลักและโต้แย้งผู้ที่ต่อต้านคำสอนนั้น [๑๐] เพราะมีหลายคนที่มักขัดขืนไม่เชื่อฟังพวกเขา เป็นคนดีแต่พูดและหลอกลวงโดยเฉพาะคนเหล่านั้นจากกลุ่มเข้าสุหนัต [๑๑] ต้องทำให้พวกนี้สงบปากสงบคำ เพราะหลายครัวเรือนกำลังถูกเขาทำลายทั้งครอบครัวโดยการสอนสิ่งที่เขาไม่ควรสอนและการสอนนั้นก็เพื่อหาประโยชน์ในทางทุจริต [๑๒] แม้แต่ผู้พยากรณ์คนหนึ่งของพวกเขาเองยังกล่าวว่า “ชาวครีตเป็นคนโกหกเสมอ เป็นสัตว์ป่าชั่วร้าย เป็นคนตะกละตะกลามที่เกียจคร้าน” [๑๓] และคำพูดนี้ก็เป็นความจริง ฉะนั้นจงว่ากล่าวเขาอย่างเข้มงวดเพื่อเขาจะไม่มีข้อบกพร่องในความเชื่อนั้น [๑๔] และจะไม่ใส่ใจกับนิยายปรัมปราของยิวหรือกฎเกณฑ์ของพวกที่ปฏิเสธความจริง [๑๕] สำหรับผู้บริสุทธิ์นั้นทุกสิ่งก็บริสุทธิ์ แต่สำหรับผู้เสื่อมทรามและไม่เชื่อแล้ว ไม่มีสิ่งใดบริสุทธิ์เลย อันที่จริงความคิดและจิตสำนึกของเขาก็เสื่อมทราม [๑๖] เขาอ้างว่ารู้จักพระเจ้า แต่ปฏิเสธพระองค์ด้วยการกระทำของเขา เขาเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่เชื่อฟัง ไม่เหมาะสำหรับการทำดีใดๆ ๒ เปโตร ๒:๑-๒๒[๑] แต่ก็มีผู้เผยพระวจนะเท็จในหมู่ประชากรเช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนผิดท่ามกลางพวกท่าน พวกเขาจะแอบนำคำสอนผิดซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเข้ามา พวกเขาถึงกับปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เจ้าชีวิตผู้ได้ทรงไถ่พวกเขา ซึ่งการทำอย่างนี้นำความพินาศมาสู่พวกเขาเองอย่างรวดเร็ว [๒] หลายคนจะเดินตามแนวทางอันน่าละอายของเขา สร้างความเสื่อมเสียแก่ทางแห่งความจริง [๓] ด้วยความโลภผู้สอนผิดเหล่านี้จะแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อตักตวงผลประโยชน์จากท่าน คำตัดสินโทษคนเหล่านี้แขวนอยู่เหนือหัวของเขามาเนิ่นนานแล้ว ความพินาศกำลังจะมาถึงเขาแล้ว [๔] เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงละเว้นทูตสวรรค์ที่ทำบาป แต่ทรงส่งลงนรกเข้าคุกมืด รอการพิพากษา [๕] พระองค์ไม่ได้ทรงละเว้นโลกในสมัยโบราณเมื่อทรงให้น้ำท่วมคนอธรรมที่อยู่ในโลก แต่ทรงปกป้องโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรมกับคนอื่นๆ อีกเจ็ดคน [๖] พระองค์ได้ทรงลงโทษเมืองโสโดมกับโกโมราห์โดยเผาให้วอดวายเป็นเถ้าถ่านเพื่อเป็นตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดแก่คนอธรรม [๗] และพระองค์ได้ทรงช่วยโลทผู้ชอบธรรมซึ่งทุกข์ยากลำบากใจเนื่องด้วยชีวิตโสมมของคนไร้ศีลธรรม [๘] (เพราะผู้ชอบธรรมคนนี้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกเขา จิตวิญญาณอันชอบธรรมของเขาย่อมทุกข์ทรมานเนื่องจากได้เห็นได้ยินพฤติกรรมที่ชั่วร้ายอยู่วันแล้ววันเล่า) [๙] ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพระเจ้าย่อมทรงทราบว่าจะช่วยคนชอบธรรมให้รอดพ้นจากการทดลองได้อย่างไร และจะกักคนอธรรมไว้รอวันพิพากษา ขณะเดียวกันก็ลงโทษพวกเขาไปเรื่อยๆ ได้อย่างไร [๑๐] โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าจะทรงลงโทษคนที่ปล่อยตัวไปตามความปรารถนาของวิสัยบาป ที่ทำให้เป็นมลทินและลบหลู่ผู้ทรงอำนาจ คนเหล่านี้กล้าบ้าบิ่นและอวดดี สบประมาทเทพเบื้องบนโดยไม่สะทกสะท้าน [๑๑] ซึ่งแม้แต่ทูตสวรรค์ผู้มีพละกำลังและฤทธิ์อำนาจเหนือกว่ายังไม่ได้กล่าวสบประมาทเมื่อกล่าวโทษเทพเหล่านี้ ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า [๑๒] แต่คนเหล่านี้สบประมาทสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ พวกเขาเป็นเช่นสัตว์เดรัจฉานที่ทำอะไรตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพียงเพื่อถูกล่าทำลาย และเขาจะพินาศไปเหมือนสัตว์เดรัจฉานอย่างแน่นอน [๑๓] สิ่งเลวร้ายที่เขาได้ทำจะคืนสนองเขา คนเหล่านี้ถือว่าการมั่วสุมเสเพลเฮฮาทั้งกลางวันแสกๆ เป็นความบันเทิง เขาเป็นสิ่งแปดเปื้อนและรอยด่างพร้อย เขาหาความสำราญใส่ตนขณะร่วมงานเลี้ยงกับพวกท่าน [๑๔] แววตาของเขาเปี่ยมด้วยการล่วงประเวณี เขาทำบาปไม่เลิกรา เขาล่อลวงคนที่ไม่หนักแน่น เขาช่ำชองในความโลภ พวกเขาคือเผ่าพันธุ์ที่ถูกสาปแช่ง! [๑๕] เขาละทิ้งทางที่ถูกและเตลิดไปตามทางของบาลาอัมบุตรเบโอร์ผู้รับสินจ้างทุจริต [๑๖] แต่ผู้เผยพระวจนะคนนี้ถูกลาตำหนิ สัตว์ซึ่งพูดไม่ได้กลับเอ่ยออกมาเป็นเสียงมนุษย์และได้ยับยั้งความบ้าคลั่งของเขา [๑๗] คนเหล่านี้คือบ่อแล้งน้ำ คือหมอกที่ถูกพายุพัดไป นรกมืดมิดรอพวกเขาอยู่ [๑๘] เพราะเขาพูดจาโอ้อวดลมๆ แล้งๆ และใช้ราคะตัณหาตามวิสัยมนุษย์บาปหนามาล่อลวงคนทั้งหลายที่เพิ่งหนีพ้นจากบรรดาผู้ที่ดำเนินชีวิตในทางที่ผิด [๑๙] พวกเขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นเป็นอิสระ แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะคนเราถูกสิ่งใดครอบงำย่อมเป็นทาสของสิ่งนั้น [๒๐] ถ้าพวกเขาได้หนีพ้นมลทินโลกมาแล้วโดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แล้วยังหวนกลับไปข้องเกี่ยวและพ่ายแพ้แก่มัน บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเริ่มแรก [๒๑] ถ้าพวกเขาไม่รู้จักทางแห่งความชอบธรรมเสียเลยก็ยังดีกว่าได้รู้จักแล้วหันหลังให้พระบัญชาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสืบทอดมาถึงพวกเขา [๒๒] พวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตที่ว่า “สุนัขหวนกลับไปหาสิ่งที่มันสำรอกออกมา” และที่ว่า “สุกรที่อาบน้ำแล้วย้อนกลับไปเกลือกกลั้วในปลักโคลน” มัทธิว ๒๓:๑-๒๙[๑] แล้วพระเยซูตรัสกับประชาชนและเหล่าสาวกของพระองค์ว่า [๒] “เหล่าธรรมาจารย์กับพวกฟาริสีนั่งอยู่บนที่นั่งของโมเสส [๓] ดังนั้นท่านต้องเชื่อฟังเขาและทำทุกอย่างที่เขาบอก แต่อย่าทำสิ่งที่เขาทำเพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่เขาสอน [๔] เขาผูกภาระหนักวางไว้บนบ่าคนทั้งหลาย ส่วนพวกเขาเองไม่ยอมแม้แต่ใช้สักนิ้วเดียวช่วยยก [๕] “ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนเพื่ออวดให้คนเห็น เขาคาดกลักพระธรรม ขนาดใหญ่ พู่ห้อยอย่างยาวที่ชายเสื้อ [๖] เขาชอบที่อันทรงเกียรติในงานเลี้ยงและที่นั่งสำคัญที่สุดในธรรมศาลา [๗] เขาชอบให้ผู้คนมาคำนับทักทายในย่านตลาดและเรียกเขาว่า ‘รับบี’ [๘] “ส่วนท่านอย่าให้ใครเรียกว่า ‘รับบี’ เลยเพราะท่านมีพระอาจารย์เพียงองค์เดียวและท่านทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกัน [๙] และอย่าเรียกผู้ใดในโลกว่า ‘บิดา’ เพราะท่านมีพระบิดาเพียงองค์เดียวและพระองค์สถิตในสวรรค์ [๑๐] ทั้งอย่าให้ใครมาเรียกท่านว่า ‘ครู’ เพราะท่านมีพระครูเพียงองค์เดียวคือพระคริสต์ [๑๑] ผู้เป็นใหญ่ที่สุดท่ามกลางท่านจะเป็นผู้รับใช้ท่าน [๑๒] เพราะผู้ใดยกตัวเองขึ้นจะถูกทำให้ต่ำลงและผู้ใดถ่อมตัวลงจะได้รับการเชิดชูขึ้น [๑๓] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าปิดอาณาจักรสวรรค์ใส่หน้าเพื่อนมนุษย์ ตัวเจ้าเองไม่เข้าไปและเจ้าไม่ยอมให้คนที่พยายามจะเข้าได้เข้าไป [๑๔] *** [๑๕] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อนำเพียงคนหนึ่งมาเข้าศาสนา และเมื่อได้มาก็ทำให้เขาเป็นเด็กนรกยิ่งกว่าเจ้าเองสองเท่า [๑๖] “วิบัติแก่เจ้า คนนำทางตาบอด! เจ้าพูดว่า ‘ใครสาบานโดยอ้างพระวิหารก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าสาบานโดยอ้างทองคำของพระวิหารก็ต้องทำตามที่สาบานไว้’ [๑๗] เจ้าคนโง่มืดบอด! อย่างไหนสำคัญกว่ากัน ทองคำหรือพระวิหารที่ทำให้ทองคำศักดิ์สิทธิ์? [๑๘] และเจ้าพูดด้วยว่า ‘ถ้าใครสาบานโดยอ้างแท่นบูชาก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าอ้างของถวายบนแท่นนั้นก็ต้องทำตามที่สาบานไว้’ [๑๙] เจ้าคนตาบอด! อย่างไหนสำคัญกว่า ของถวายหรือแท่นบูชาที่ทำให้ของถวายนั้นศักดิ์สิทธิ์? [๒๐] ฉะนั้นผู้ที่สาบานโดยอ้างแท่นบูชาก็สาบานโดยอ้างแท่นบูชาและทุกสิ่งบนแท่นนั้น [๒๑] ผู้ที่สาบานโดยอ้างพระวิหารก็สาบานโดยอ้างพระวิหารและองค์ผู้สถิตในวิหารนั้น [๒๒] และผู้ที่สาบานโดยอ้างฟ้าสวรรค์ก็สาบานโดยอ้างพระบัลลังก์ของพระเจ้าและพระองค์ผู้ประทับบนบัลลังก์นั้น [๒๓] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าถวายสิบลดของเครื่องเทศของเจ้า คือสะระแหน่ ลูกผักชี และยี่หร่า แต่ละเลยเรื่องที่สำคัญกว่านั้นในบทบัญญัติ คือความยุติธรรม ความเมตตา และความสัตย์ซื่อ เจ้าควรปฏิบัติอย่างหลังโดยไม่ละเลยอย่างแรก [๒๔] เจ้าคนนำทางตาบอด! เจ้ากรองลูกน้ำออกแต่กลืนอูฐทั้งตัวเข้าไป [๒๕] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าล้างถ้วยชามแต่ภายนอก ส่วนภายในเต็มไปด้วยความโลภและความมัวเมาในกิเลส [๒๖] เจ้าฟาริสีตาบอด! จงล้างถ้วยชามภายในเสียก่อน แล้วภายนอกก็จะสะอาดหมดจดด้วย [๒๗] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าเป็นเหมือนอุโมงค์ฝังศพฉาบปูนขาว ภายนอกแลดูสวยงามแต่ภายในเต็มไปด้วยซากกระดูกและสิ่งโสโครกทั้งปวง [๒๘] ในทำนองเดียวกันเปลือกนอกผู้คนมองว่าเจ้าชอบธรรม แต่ภายในเต็มไปด้วยความหน้าซื่อใจคดและความชั่วร้าย [๒๙] “วิบัติแก่เจ้า เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสี เจ้าคนหน้าซื่อใจคด! เจ้าสร้างอุโมงค์ฝังศพให้เหล่าผู้เผยพระวจนะและตกแต่งหลุมศพของผู้ชอบธรรม Thai Bible (TNCV) 2007 Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.®