|
| [๑๒] คำบัญชาของเราก็คือ จงรักซึ่งกันและกันเหมือนที่เราได้รักพวกท่าน [๑๓] ไม่มีผู้ใดมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้คือ การที่เขายอมสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตนเอง |
|
|
| ถ้าผู้ใดไม่จุนเจือญาติพี่น้องของตนโดยเฉพาะคนในครอบครัวของตนเอง ผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธความเชื่อแล้วและเลวยิ่งกว่าผู้ไม่เชื่อ |
|
|
| ผู้ที่เป็นบิดาอย่ายั่วโทสะบุตรของตน แต่จงอบรมเลี้ยงดูโดยการฝึกฝนและสั่งสอนตามแนวขององค์พระผู้เป็นเจ้า |
|
|
| อย่าละทิ้งมิตรสหายของเจ้าหรือของครอบครัวเจ้า และอย่าไปบ้านพี่น้องเมื่อเจ้าทุกข์ยากลำบาก เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ก็ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล |
|
|
| [๔๘] พระเยซูจึงตรัสตอบเขาว่า “ใครคือมารดาและใครคือพี่น้องของเรา?” [๔๙] พระองค์ทรงชี้ไปที่เหล่าสาวกของพระองค์และตรัสว่า “นี่คือมารดาและพี่น้องของเรา [๕๐] เพราะผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระบิดาของเราในสวรรค์ ผู้นั้นคือมารดาและพี่น้องชายหญิงของเรา” |
|
|
| [๑๘] เขาทูลว่า “ข้อไหนบ้าง?” พระเยซูตรัสว่า “ ‘อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณีอย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ [๑๙] จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า’ และ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ ” |
|
|
| จงอดทนอดกลั้นต่อกันและกัน และไม่ว่าท่านมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจประการใดต่อกันก็จงยกโทษให้กัน ท่านจงยกโทษให้กันเหมือนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงยกโทษให้ท่าน |
|
|
| เหตุฉะนั้นเมื่อมีโอกาส ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนที่อยู่ในครอบครัวแห่งความเชื่อ |
|
|
| [๓๓] อย่าให้ใครชักจูงให้หลงผิดเลย “เพื่อนเลวย่อมทำให้อุปนิสัยที่ดีเสื่อมทรามไป” [๓๔] จงกลับมีสติสัมปชัญญะอย่างที่ควรเถิดและเลิกทำบาป เพราะมีบางคนไม่รู้จักพระเจ้าเลย ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ |
|
|
| ผู้ที่มีเพื่อนกินจะถึงหายนะ แต่ก็มีเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดยิ่งกว่าพี่น้อง |
|
|
| (บทเพลงใช้แห่ขึ้นไปยังเยรูซาเล็ม บทประพันธ์ของดาวิด) เป็นการดีและน่าชื่นใจยิ่งนัก เมื่อพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน! |
|
|
| เพื่อนมีความรักความหวังดีให้ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันในยามทุกข์ยาก |
|
|
| จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่หันเหไปจากทางนั้น |
|
|
| “จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนยาวในดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังยกให้เจ้า |
|
|
| แต่หากท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จงเลือกในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติใคร จะเป็นพระต่างๆ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติที่ฟากข้างโน้นของแม่น้ำยูเฟรติส หรือพระต่างๆ ของชาวอาโมไรต์ในดินแดนซึ่งท่านอาศัยอยู่ขณะนี้ แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเองกับครอบครัวจะปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า” |
|
|
| คนชอบธรรมเลือกคบเพื่อน ส่วนทางของคนชั่วพาตนเองหลงเตลิดไป |
|
|
| [๖] จงให้บทบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน [๗] จงพร่ำสอนบทบัญญัติเหล่านี้แก่บุตรหลานของท่าน จงพูดถึงบทบัญญัติเหล่านี้ขณะอยู่ที่บ้าน ขณะเดินไปตามทาง ขณะที่นอนลงหรือลุกขึ้น |
|
|
| [๑๕] “แม่จะลืมลูกน้อยในอก และจะไม่เอ็นดูสงสารลูกที่นางให้กำเนิดได้หรือ? แม้นางอาจจะลืมได้ แต่เราจะไม่ลืมเจ้า! [๑๖] ดูเถิด เราได้สลักชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงของเจ้าอยู่ตรงหน้าเราเสมอ |
|
|
| [๑๗] แต่จากนิรันดร์กาลจวบจนนิรันดร์กาล ความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และความชอบธรรมของพระองค์อยู่กับลูกหลานของพวกเขา [๑๘] อยู่กับผู้ที่รักษาพันธสัญญาของพระองค์ และเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์ |
|
|
| ลูกหลานเป็นมงกุฎของคนชรา และพ่อแม่เป็นความภาคภูมิใจของลูกๆ |
|
|
| [๓] บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้า บุตรหลานเป็นบำเหน็จจากพระองค์ [๔] บุตรที่เกิดแก่คนหนุ่มฉกรรจ์ เป็นเหมือนลูกศรในมือนักรบ [๕] ความสุขมีแก่ ผู้ที่มีลูกธนูอยู่เต็มแล่ง เขาจะไม่ต้องอับอาย เมื่อขับเคี่ยวกับศัตรูที่ประตูเมือง |
|
|
| ผู้ที่ส่งเสริมความรักก็ลบความบาดหมาง ผู้ที่ฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ทำให้เพื่อนสนิทหมางใจกัน |
|
|
| ลูกเอ๋ย จงรักษาคำสั่งของพ่อเจ้า และอย่าละเลยคำสอนของแม่เจ้า |
|
|
| บาดแผลที่เพื่อนทำก็ยังน่าเชื่อถือ แต่จูบของศัตรูก็พร่ำเพรื่อไม่จริงใจ |
|
|
| อย่าให้ใครชักจูงให้หลงผิดเลย “เพื่อนเลวย่อมทำให้อุปนิสัยที่ดีเสื่อมทรามไป” |
|
|
| พ่อของคนชอบธรรมก็สุขใจมาก คนที่มีลูกฉลาดก็ชื่นชมในตัวลูก |
|
|
| ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราสถิตกับเราเหมือนที่สถิตกับเหล่าบรรพบุรุษของเรา ขออย่าได้ทรงทอดทิ้งหรือละจากเราเลย |
|
|
| ถ้าแม้ท่านเองซึ่งเป็นคนชั่วยังรู้จักให้สิ่งดีๆ แก่บุตรของท่าน ยิ่งกว่านั้นสักเพียงใด พระบิดาของท่านในสวรรค์ย่อมประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่บรรดาผู้ที่ทูลขอพระองค์!” |
|
|
| ลูกเอ๋ย หากเจ้ามีใจฉลาด เราก็ปลื้มใจ |
|
|
| [๑๒] หากเป็นศัตรูมาสบประมาทข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายังพอจะทนได้ หากเป็นปฏิปักษ์ที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไปซ่อนตัวเสีย [๑๓] แต่นี่เป็นท่านเอง ซึ่งเป็นคนอย่างข้าพเจ้า เพื่อนร่วมทาง เพื่อนสนิทของข้าพเจ้า [๑๔] ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยโอภาปราศรัยด้วยอย่างหวานชื่น ขณะที่เราเดินเคียงกันไปกับฝูงชนที่พระนิเวศของพระเจ้า |
|
|
| เหล็กลับเหล็กได้ฉันใด คนเราก็ลับกันได้ฉันนั้น |
|