|
| ศาสนาที่พระเจ้าพระบิดาของเรายอมรับว่าบริสุทธิ์และไร้ตำหนิคือ การดูแลลูกกำพร้าและหญิงม่ายที่ทุกข์ร้อนและการรักษาตนเองให้พ้นจากมลทินฝ่ายโลก |
|
|
| ครั้งนั้นเมื่อสาวกเพิ่มจำนวนขึ้นชาวยิวผู้ถือธรรมเนียมกรีกบ่นไม่พอใจชาวยิวผู้ถือธรรมเนียมยิวเพราะแม่ม่ายในหมู่พวกตนถูกละเลยในการแจกจ่ายอาหารประจำวัน |
|
|
| [๓] จงนับถือเอาใจใส่หญิงม่ายผู้ขัดสนตามสมควร [๔] แต่ถ้าหญิงม่ายคนใดมีลูกหลาน ก่อนอื่นใดให้ลูกหลานเหล่านั้นพึงปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา โดยการเอาใจใส่ดูแลครอบครัวของตนเองอันเป็นการตอบแทนคุณบิดามารดาปู่ย่าตายาย เพราะการทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า [๕] หญิงม่ายผู้ขัดสนจริงๆ และอยู่ลำพังคนเดียวนั้นก็ตั้งความหวังไว้ในพระเจ้า นางพร่ำอธิษฐานและทูลขอพระเจ้าทั้งวันทั้งคืนให้ทรงช่วยเหลือ [๖] แต่หญิงม่ายที่อยู่เพื่อหาความสนุกเพลิดเพลินก็ตายทั้งเป็น [๗] จงสั่งสอนสิ่งเหล่านี้ด้วยเพื่อจะไม่มีใครถูกตำหนิได้ [๘] ถ้าผู้ใดไม่จุนเจือญาติพี่น้องของตนโดยเฉพาะคนในครอบครัวของตนเอง ผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธความเชื่อแล้วและเลวยิ่งกว่าผู้ไม่เชื่อ [๙] อย่าบันทึกชื่อหญิงม่ายคนใดในทะเบียนรับการอุปถัมภ์ เว้นแต่นางจะมีอายุเกินหกสิบปีและสัตย์ซื่อต่อสามีของนาง [๑๐] และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการทำความดีเช่น เลี้ยงดูลูกๆ มีน้ำใจรับรองแขก ล้างเท้าให้ประชากรของพระเจ้า ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและอุทิศตนในการทำดีทุกอย่าง [๑๑] ส่วนหญิงม่ายสาวๆ นั้น อย่ารับขึ้นทะเบียน เพราะเมื่อความปรารถนาทางร่างกายมีชัยเหนือการอุทิศตัวแด่พระคริสต์ พวกนางก็อยากแต่งงานอีก [๑๒] อันเป็นเหตุให้นางถูกพิพากษาเพราะละเมิดคำปฏิญาณที่ให้ไว้แต่แรก [๑๓] นอกจากนี้พวกนางจะกลายเป็นคนเกียจคร้านเที่ยวไปบ้านนั้นบ้านนี้ และไม่เพียงเกียจคร้านเท่านั้นแต่ยังชอบซุบซิบนินทาและยุ่งเรื่องชาวบ้าน พูดสิ่งที่ไม่ควรพูด [๑๔] ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอแนะนำหญิงม่ายสาวๆ ให้แต่งงาน ให้มีลูกหลาน ให้ดูแลบ้านช่องเพื่อปิดโอกาสไม่ให้ศัตรูว่าร้ายได้ [๑๕] อันที่จริงบางคนได้เตลิดตามซาตานไปแล้ว [๑๖] ถ้าหญิงผู้เชื่อคนใดมีคนในครอบครัวเป็นม่ายก็จงช่วยเหลือจุนเจือ อย่าปล่อยให้เป็นภาระของคริสตจักร คริสตจักรจะได้ช่วยเหลือหญิงม่ายอื่นๆ ซึ่งขัดสนจริงๆ |
|
|
| อย่าบันทึกชื่อหญิงม่ายคนใดในทะเบียนรับการอุปถัมภ์ เว้นแต่นางจะมีอายุเกินหกสิบปีและสัตย์ซื่อต่อสามีของนาง |
|
|
| จงนับถือเอาใจใส่หญิงม่ายผู้ขัดสนตามสมควร |
|
|
| ถ้าหญิงผู้เชื่อคนใดมีคนในครอบครัวเป็นม่ายก็จงช่วยเหลือจุนเจือ อย่าปล่อยให้เป็นภาระของคริสตจักร คริสตจักรจะได้ช่วยเหลือหญิงม่ายอื่นๆ ซึ่งขัดสนจริงๆ |
|
|
| เปโตรมากับคนทั้งสอง เมื่อมาถึงพวกเขาก็พาเปโตรขึ้นไปยังห้องชั้นบนนั้น บรรดาหญิงม่ายมาห้อมล้อมเปโตร ร้องไห้ และให้เขาดูเสื้อผ้าต่างๆ ที่โดรคัสทำให้ขณะยังมีชีวิตอยู่ |
|
|
| [๑] ครั้งนั้นเมื่อสาวกเพิ่มจำนวนขึ้นชาวยิวผู้ถือธรรมเนียมกรีกบ่นไม่พอใจชาวยิวผู้ถือธรรมเนียมยิวเพราะแม่ม่ายในหมู่พวกตนถูกละเลยในการแจกจ่ายอาหารประจำวัน [๒] ดังนั้นอัครทูตทั้งสิบสองคนจึงเรียกสาวกทั้งปวงมาประชุมพร้อมหน้ากันและกล่าวว่า “เป็นการไม่ถูกต้องที่เราจะละเลยพันธกิจแห่งพระวจนะของพระเจ้าเพื่อไปรับใช้ที่โต๊ะอาหาร [๓] พี่น้องทั้งหลาย จงเลือกคนเจ็ดคนในพวกท่านซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเต็มด้วยพระวิญญาณและสติปัญญา เราจะได้มอบความรับผิดชอบนี้แก่พวกเขา [๔] ส่วนเราจะได้เอาใจใส่ในการอธิษฐานและพันธกิจแห่งพระวจนะ” [๕] ที่ประชุมทั้งหมดเห็นชอบกับข้อเสนอนี้จึงเลือกสเทเฟน ชายผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อและพระวิญญาณบริสุทธิ์ พร้อมทั้งฟีลิป โปรโครัส นิคาโนร์ ทิโมน ปารเมนัส และนิโคลัสจากเมืองอันทิโอกซึ่งมาเข้าจารีตยิว [๖] พวกเขานำทั้งเจ็ดคนนี้มาหาอัครทูต อัครทูตก็อธิษฐานและวางมือให้ |
|
|
| [๑๑] ส่วนหญิงม่ายสาวๆ นั้น อย่ารับขึ้นทะเบียน เพราะเมื่อความปรารถนาทางร่างกายมีชัยเหนือการอุทิศตัวแด่พระคริสต์ พวกนางก็อยากแต่งงานอีก [๑๒] อันเป็นเหตุให้นางถูกพิพากษาเพราะละเมิดคำปฏิญาณที่ให้ไว้แต่แรก [๑๓] นอกจากนี้พวกนางจะกลายเป็นคนเกียจคร้านเที่ยวไปบ้านนั้นบ้านนี้ และไม่เพียงเกียจคร้านเท่านั้นแต่ยังชอบซุบซิบนินทาและยุ่งเรื่องชาวบ้าน พูดสิ่งที่ไม่ควรพูด [๑๔] ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอแนะนำหญิงม่ายสาวๆ ให้แต่งงาน ให้มีลูกหลาน ให้ดูแลบ้านช่องเพื่อปิดโอกาสไม่ให้ศัตรูว่าร้ายได้ |
|
|
| [๘] สำหรับคนโสดและผู้ที่เป็นม่าย ข้าพเจ้าขอบอกว่าเป็นการดีแล้วที่จะไม่แต่งงานเหมือนกับข้าพเจ้า [๙] แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ พวกเขาก็ควรแต่งงานเพราะแต่งงานไปก็ยังดีกว่าถูกเผาเร่าร้อนด้วยราคะ |
|
|
| บิดาของลูกกำพร้าพ่อและผู้ปกป้องของหญิงม่าย คือองค์พระเจ้าในที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์ |
|
|
| เพื่อชนเลวี (ผู้ซึ่งไม่มีส่วนแบ่งหรือกรรมสิทธิ์ของเขา) คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายที่อยู่ในเมืองของท่านจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านในการงานทุกอย่างที่ท่านทำ |
|
|
| [๑๑] และท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวีในเมืองของท่าน คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน จงชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกเป็นที่สถาปนาพระนามของพระองค์ [๑๒] อย่าลืมว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ฉะนั้นจงใส่ใจปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ [๑๓] หลังจากเก็บรวบรวมผลิตผลจากลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นแล้ว จงฉลองเทศกาลอยู่เพิงตลอดเจ็ดวัน [๑๔] ท่าน บุตรชายบุตรสาว ทาสชายหญิง คนเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายในเมืองของท่านจงฉลองวาระชื่นชมยินดีด้วยกัน |
|
|
| ทิ้งลูกกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะคุ้มครองชีวิตของพวกเขา แม่ม่ายของเจ้าก็พึ่งพาเราได้” |
|
|
| พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “เราจะมาหาพวกเจ้าเพื่อพิพากษาโทษ เราจะตั้งข้อหาโดยเร็วแก่บรรดาคนที่ใช้คาถาอาคม คนล่วงประเวณี คนที่สาบานเท็จ คนที่โกงค่าแรงลูกจ้าง คนที่รังแกหญิงม่ายและลูกกำพร้าพ่อ คนที่ไม่ให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าว และคนที่ไม่ยำเกรงเรา” |
|
|
| [๒๘] ทุกปลายปีที่สามจงนำสิบลดทั้งหมดของพืชผลของปีนั้นมาสะสมไว้ในเมืองของท่าน [๒๙] เพื่อชนเลวี (ผู้ซึ่งไม่มีส่วนแบ่งหรือกรรมสิทธิ์ของเขา) คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่ายที่อยู่ในเมืองของท่านจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรท่านในการงานทุกอย่างที่ท่านทำ |
|
|
| ท่านขับไล่ไสส่งแม่ม่ายออกไปมือเปล่า และริดรอนกำลังของลูกกำพร้าพ่อ |
|
|
| ข้าพระองค์ทั้งหลายกลายเป็นลูกกำพร้า เป็นลูกไม่มีพ่อ แม่ของข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นเหมือนแม่ม่าย |
|
|
| [๒๒] “อย่าเอารัดเอาเปรียบหญิงม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ [๒๓] หากเจ้าขืนทำและเขาร้องทูลเรา เราจะฟังคำร้องทุกข์ของเขาอย่างแน่นอน [๒๔] เราจะโกรธและจะประหารเจ้าด้วยดาบ ภรรยาของเจ้าจะเป็นม่าย และลูกของเจ้าจะกำพร้าพ่อ |
|
|
| [๑] วิบัติแก่บรรดาผู้ออกบทบัญญัติอันไม่เป็นธรรม วิบัติแก่ผู้ที่ออกกฎหมายกดขี่ข่มเหง [๒] เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น |
|
|
| เราจะโกรธและจะประหารเจ้าด้วยดาบ ภรรยาของเจ้าจะเป็นม่าย และลูกของเจ้าจะกำพร้าพ่อ |
|
|
| เราจะทำให้มีแม่ม่ายในหมู่พวกเขา มากยิ่งกว่าทรายในทะเล กลางวันแสกๆ เราจะนำผู้ทำลาย มาเล่นงานบรรดาแม่ของคนหนุ่ม เราจะนำความทุกข์ร้าวรานและความอกสั่นขวัญแขวน มายังพวกเขาอย่างฉับพลัน |
|
|
| ผู้ที่รอดชีวิตอยู่ก็จะถูกนำไปสู่หลุมศพด้วยโรคระบาด ภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่คร่ำครวญถึงพวกเขา |
|
|
| เพื่อริดรอนสิทธิของผู้ยากไร้ และไม่ให้ความยุติธรรมแก่ประชากรผู้ถูกข่มเหงของเรา ทำให้หญิงม่ายตกเป็นเหยื่อของพวกเขา และลูกกำพร้าพ่อถูกปล้น |
|
|
| ด้วยเหตุนี้ ขอให้ลูกๆ ของพวกเขาอดตาย ขอให้พวกเขาเป็นเหยื่อคมดาบ ขอให้ภรรยาของพวกเขาเป็นม่ายและถูกพรากลูกไปหมด ขอให้พวกผู้ชายของเขาถูกสังหาร ให้คนหนุ่มของพวกเขาถูกฆ่าฟันในสงคราม |
|
|
| เหล่าปุโรหิตถูกประหารด้วยดาบ และภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่สามารถร้องไห้ไว้ทุกข์ |
|
|
| “อย่าเอารัดเอาเปรียบหญิงม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ |
|
|
| “ขอแช่งคนที่ไม่ให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ หรือหญิงม่าย” แล้วประชากรทั้งปวงจะขานรับว่า “อาเมน!” |
|
|
| จงให้ความยุติธรรมแก่คนต่างด้าวและลูกกำพร้าพ่อ อย่าเอาเสื้อคลุมของหญิงม่ายเป็นของค้ำประกันหนี้สิน |
|
|
| แล้วเป็นม่ายมาจนถึงอายุ 84 ปี นางไม่เคยออกจากพระวิหารเลยทุกวันคืน เฝ้านมัสการ อดอาหาร และอธิษฐาน |
|
|
| พระองค์ทรงดูแลปกป้องลูกกำพร้าพ่อและหญิงม่าย ทรงรักคนต่างด้าว ประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่พวกเขา |
|
|
| จงเรียนรู้ที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง! จงแสวงหาความยุติธรรม จงให้กำลังใจผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง จงปกป้องลูกกำพร้าพ่อ และสู้คดีให้หญิงม่าย” |
|
|
| ดังนั้นถ้านางไปแต่งงานกับชายอื่นขณะที่สามี ของนางยังมีชีวิตอยู่ นางก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงล่วงประเวณี แต่ถ้าสามีของนางตายไป นางก็พ้นจากกฎนั้น แม้นางไปแต่งงานกับชายอื่นก็ไม่เป็นการล่วงประเวณี |
|
|
| แต่ถ้าหญิงม่ายคนใดมีลูกหลาน ก่อนอื่นใดให้ลูกหลานเหล่านั้นพึงปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา โดยการเอาใจใส่ดูแลครอบครัวของตนเองอันเป็นการตอบแทนคุณบิดามารดาปู่ย่าตายาย เพราะการทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า |
|
|
| [๑๙] เมื่อท่านเก็บเกี่ยวพืชผล หากท่านลืมฟ่อนข้าวมัดหนึ่งไว้ในท้องนา อย่ากลับไปเอา จงปล่อยไว้สำหรับคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรการงานทุกอย่างที่ท่านทำ [๒๐] เมื่อท่านฟาดผลมะกอกจากต้น ไม่ต้องเก็บซ้ำที่กิ่งเดิม จงปล่อยส่วนที่เหลือไว้เป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย [๒๑] เมื่อท่านเก็บเกี่ยวองุ่นในสวนของท่าน อย่าเก็บซ้ำจนเกลี้ยง จงปล่อยส่วนที่เหลือไว้เป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย |
|
|
| พวกเขาริบเอาลาของลูกกำพร้าพ่อ และยึดวัวของแม่ม่ายเป็นของค้ำประกัน |
|
|
| ในกรุงนี้ผู้คนดูหมิ่นเหยียดหยามพ่อแม่ของตน ในกรุงนี้พวกเขากดขี่ข่มเหงคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย |
|
|
| และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการทำความดีเช่น เลี้ยงดูลูกๆ มีน้ำใจรับรองแขก ล้างเท้าให้ประชากรของพระเจ้า ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและอุทิศตนในการทำดีทุกอย่าง |
|
|
| องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรื้อบ้านของคนหยิ่งยโส แต่ทรงปักเขตที่ดินให้หญิงม่าย |
|
|
| อย่ากดขี่ข่มเหงแม่ม่ายหรือลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือผู้ยากไร้ อย่าให้ท่านมีใจคิดร้ายต่อกัน’ |
|
|
| [๔๒] แต่หญิงม่ายยากจนคนหนึ่งเอาเหรียญสองเหรียญ มูลค่าแค่เศษเสี้ยวสตางค์ มาถวาย [๔๓] พระเยซูทรงเรียกเหล่าสาวกมาและตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหญิงม่ายยากจนคนนี้ถวายเข้าคลังพระวิหารมากกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด |
|
|
| คนใกล้ตายให้พรข้า ข้าทำให้หัวใจของหญิงม่ายร้องเพลง |
|
|
| เมื่อท่านเก็บเกี่ยวพืชผล หากท่านลืมฟ่อนข้าวมัดหนึ่งไว้ในท้องนา อย่ากลับไปเอา จงปล่อยไว้สำหรับคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรการงานทุกอย่างที่ท่านทำ |
|
|
| ทุกปีที่สามเป็นปีแห่งสิบลด ในปีนั้นจงมอบหนึ่งในสิบของผลิตผลทั้งปวงของท่านแก่ชาวเลวี คนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ และหญิงม่าย เพื่อพวกเขาจะได้รับประทานอิ่มหนำในเมืองของท่าน |
|
|
| หญิงม่ายผู้ขัดสนจริงๆ และอยู่ลำพังคนเดียวนั้นก็ตั้งความหวังไว้ในพระเจ้า นางพร่ำอธิษฐานและทูลขอพระเจ้าทั้งวันทั้งคืนให้ทรงช่วยเหลือ |
|
|
| หากเจ้าไม่ข่มเหงคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อ หรือหญิงม่าย ไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งเลือดที่นี่ หากเจ้าไม่ติดตามพระอื่นๆ ให้เจ้าเองได้รับอันตราย |
|
|
| พวกเขาสังหารหญิงม่ายและคนต่างด้าว พวกเขาเข่นฆ่าลูกกำพร้าพ่อ |
|
|
| องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิทักษ์รักษาคนต่างด้าว ทรงค้ำชูลูกกำพร้าพ่อและหญิงม่าย แต่ทรงล้มแผนการของคนชั่วร้าย |
|